รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอน
โรงเรียนนามนพิทยาคม อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ ปีการศึกษา 2551
.....
ชื่อเรื่อง รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอน
โรงเรียนนามนพิทยาคม อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ ปีการศึกษา 2551
ผู้ศึกษา นายสุธวัธช์ เทศารินทร์
ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนนามนพิทยาคม
ปีที่พิมพ์ 2552
บทคัดย่อ
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอน โรงเรียนนามนพิทยาคม อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ ปีการศึกษา 2551 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ของการประเมินโครงการเพื่อประเมินด้านบริบท (Context Evaluation) ด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation) ด้านกระบวนการดำเนินงาน (Process Evaluation) และด้านผลผลิต (Product Evaluation) ของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอนโรงเรียนนามนพิทยาคม ปีการศึกษา 2551 กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูผู้สอน นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนของโรงเรียนนามนพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 ปีการศึกษา 2551 จำนวน 568 คน ประกอบด้วย ครูผู้สอนจำนวน 34 คน นักเรียนจำนวน 260 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 14 คน และผู้ปกครองนักเรียนจำนวน 260 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลครั้งนี้เป็นแบบสอบถามมีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ฉบับ ผลการศึกษา พบว่า
1. ด้านบริบทของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอน โรงเรียนนามนพิทยาคม ปีการศึกษา 2551 ตามความเห็นของครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน โดยส่วนร่วมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( ค่าเฉลี่ย = 4.18) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ โครงการมีความเหมาะกับการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.38) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยเป็นลำดับสุดท้ายคือ โครงการมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพของชุมชน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.91)
2. ด้านปัจจัยการดำเนินงานของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอนโรงเรียนนามนพิทยาคม ปีการศึกษา 2551 ตามความเห็นของครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน โดยส่วนร่วมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.03) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ความสนใจของผู้เรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.27) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยเป็นลำดับสุดท้ายคือ วัสดุ-อุปกรณ์ สื่อและเอกสารที่ใช้ในโครงการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.95)
3. ด้านกระบวนการตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอนโรงเรียนนามนพิทยาคม ปีการศึกษา 2551 ตามความเห็นของครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน โดยส่วนร่วม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.21) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ของครูผู้สอนอย่างชัดเจนในการทำโครงการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.44) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยเป็นลำดับสุดท้ายคือ มีการกำหนดปฏิทินการปฏิบัติงานตามโรงการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.04)
4. ผลการแสดงความคิดเห็นของครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอนโรงเรียนนามนพิทยาคม ปีการศึกษา 2551 โดยส่วนร่วม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.13) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ โรงเรียนมีแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.27) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยเป็นลำดับสุดท้ายคือ โรงเรียนเป็นที่ยอมรับของชุมชน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.01)
5. ผลการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอนโรงเรียนนามนพิทยาคม ปีการศึกษา 2551 กิจกรรมพัฒนาห้องสมุด ตามความเห็นของครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน โดยส่วนร่วมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.85) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ โรงเรียนส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.31) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยเป็นลำดับสุดท้ายคือ โรงเรียนส่งเสริมความสามารถพิเศษของนักเรียนอย่างรอบด้าน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.55)
6. ผลการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอนโรงเรียนนามนพิทยาคม ปีการศึกษา 2551 กิจกรรมพัฒนาห้องภาษาไทย ตามความเห็นของครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน โดยส่วนร่วมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.32) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.67) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยเป็นลำดับสุดท้ายคือ สื่อ/อุปกรณ์เพียงพอกับความต้องการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.86)
7. ผลการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอนโรงเรียนนามนพิทยาคม ปีการศึกษา 2551 กิจกรรมพัฒนาห้องคณิตศาสตร์ ตามความเห็นของครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน โดยส่วนร่วมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.58) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ มีความสนุกสนานและน่าสนใจ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.80) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยเป็นลำดับสุดท้ายคือ สื่อ/อุปกรณ์เพียงพอกับความต้องการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.78)
8. ผลการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอนโรงเรียนนามนพิทยาคม ปีการศึกษา 2551 กิจกรรมพัฒนาห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ตามความเห็นของครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน โดยส่วนร่วมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.59) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ สื่อการเรียนสอดคล้องและเหมาะสมกับเนื้อหา มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.80) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยเป็นลำดับสุดท้ายคือ สื่อ/อุปกรณ์เพียงพอกับความต้องการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.37)
9. ผลการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอนโรงเรียนนามนพิทยาคม ปีการศึกษา 2551 กิจกรรมพัฒนาห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ตามความเห็นของครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน โดยส่วนร่วมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.80) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักคิด และศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.90) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยเป็นลำดับสุดท้ายคือ สภาพห้องปฏิบัติการมีความเหมาะสม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.70)
10. ผลการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนการสอนโรงเรียนนามนพิทยาคม ปีการศึกษา 2551 กิจกรรมพัฒนาห้องสังคมศึกษาฯ(ห้องจริยธรรม) ตามความเห็นของครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน โดยส่วนร่วมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.72) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.83) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยเป็นลำดับสุดท้ายคือ ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ที่เป็นขั้นตอน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.63)
11. ผลจากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ปีการศึกษา 2551 (หลังดำเนินโครงการ) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าปีการศึกษา 2550 (ก่อนดำเนินโครงการ) หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า ปีการศึกษา 2551 ผลสัมฤทธิ์ทางเรียนของนักเรียนสูงขึ้นกว่าปีการศึกษา 2550