การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และทักษะกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาค นำเข้าเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2561 โดย นายสุพจน์ นามล้ำ อ่าน [58528]
| การจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สามารถจัดการเรียนการสอนได้
หลายรูปแบบ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เป็นรูปแบบหนึ่งของการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ การเรียนการสอนเน้นกระบวนการแสวงหาความรู้ โดยอาศัย
ทักษะกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งสามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้
จากการเรียนนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ ความมุ่งหมายของการวิจัย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ลม ฟ้า อากาศ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ลม ฟ้า อากาศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่อง ลม ฟ้า อากาศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการเรียน ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ลม ฟ้า อากาศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนหนองจระเข้เรืองศิลป์ กลุ่มสถานศึกษาที่ 6
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์เขต 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จานวน 28 คน ซึ่งได้มา โดยการการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกปีที่ 5 โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จานวน 7 แผน มีคุณภาพระดับมากถึงมากที่สุด 4.04-4.06 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.260.80 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.79
3) แบบวัดทักษะกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ แบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จานวน 30 ข้อมีค่าความยากตั้งแต่ 0.23-0.80 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20-0.47 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.72 4) แบบวัดเจตคติของนักเรียนต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ จำนวน 15 ข้อ เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) โดยแบ่งระดับเจตคติเป็น 5 ระดับ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.32-0.57 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.83 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานโดยการหาค่าที t-test
ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
1. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ลม ฟ้า อากาศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ 85.06/82.62
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ลม ฟ้า อากาศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ทักษะกระบวนการคิดทางทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ลม ฟ้า อากาศ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีเจตคติต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ลม ฟ้า อากาศ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุป การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และทักษะกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง ลม ฟ้า อากาศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพสูง ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของนักเรียนสูงขึ้น นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิทยาศาสตร์
.....
|