มีทุกวงการ..คนเสื่อม
นำเข้าเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2561 โดย จุฬา ศรีบุตตะ
อ่าน [58523]  

.....

 ฉาวอีก กองปราบฯ สืบพบพระสงฆ์วิ่งเต้นตำแหน่งผ่านวัดสามพระยา โยงร้านสังฆภัณฑ์ของสีกาคนสนิทเจ้าอาวาส 

วันนี้ (28 พ.ค.) ที่ กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. สั่งการให้ชุดสืบสวนกองปราบปรามเร่งสืบสวนติดตามจับกุมตัวสองพระผู้ใหญ่ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัดอย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. จัดชุดสืบสวนติดตามตัว พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ที่น่าเชื่อว่าจะยังคงซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และมอบหมายให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. นำทีมสืบสวนติดตามตัว พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร โดยในส่วนของ พระพรหมเมธี นั้น จากการสืบสวนมีการคาดกันว่าอาจจะหลบหนีด้วยการพรางตัวในชุดฆราวาสก็เป็นได้ 

 

ทั้งนี้ ในส่วนของการสืบสวนขยายผลนั้น มีรายงานข่าวจากชุดสืบสวน ว่า นอกจากพระชั้นผู้ใหญ่ทั้งสามรูป ประกอบด้วย พระพรหมดิลก ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้แล้ว พระพรหมสิทธิ และ พระพรหมเมธี สองผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี จะมีความผิดฐานฟอกเงินกรณีทุจริตเงินทอนวัดแล้ว ยังพบว่า พระผู้ใหญ่ทั้งสามรูปพัวพันกับการวิ่งเต้นการเลื่อนตำแหน่ง หรือสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ที่อยู่ภายใต้การปกครองด้วย โดยมีการเรียกรับผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง โดยเฉพาะกรณีของ พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา และเจ้าคณะกรุงเทพมหานครนั้น ในวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามบุกเข้าจับกุมตัว และตรวจค้นภายในกุฏิได้พบเอกสารที่เกี่ยวกับการเลื่อนสมณศักดิ์ของพระสงฆ์จำนวนหลายรูป ซึ่งตรงกับแนวทางการสืบสวนที่พบว่าพระที่ปรากฏในเอกสารที่ยึดได้บางรูปนั้น เกี่ยวพันกันกับการวิ่งเต้นเพื่อขอเลื่อนสมณศักดิ์ในแต่ละปีอีกด้วย

แหล่งข่าวในชุดสืบสวน กล่าวว่า จากการสืบสวนในส่วนของวัดสามพระยา ทราบว่า พระพรหมดิลก ที่เป็นเจ้าอาวาส และมีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าคณะกรุงเทพฯ นั้น มีความสนิทสนมกับโยมสีกาเจ้าของร้านสังฆภัณฑ์ที่ค้าขายเกี่ยวกับเครื่องอัฐบริขารใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยจากการตรวจสอบรายละเอียดความสัมพันธ์ระหว่างสีกาเจ้าของร้านกับพระพรหมดิลก พบว่า มีความใกล้ชิดกันมาก ทำให้สีกาคนนี้สามารถเข้านอกออกในกุฏิของพระพรหมดิลกได้มานานมากกว่า 10 ปี ล่าสุด สีกาคนนี้ได้ส่งลูกเขยคนหนึ่งมาบวชที่วัดสามพระยา เพื่อปรนนิบัติรับใช้พระพรหมดิลกโดยตรง 

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบการเดินทางในรอบปีที่ผ่านมา พบว่า สีกาคนดังกล่าวเดินทางไปต่างประเทศกับพระพรหมดิลกมากกว่า 10 ครั้ง แต่ละครั้งมีการระบุที่นั่งคู่กันอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าสีกาคนนี้จะมีครอบครัวแล้วก็ตาม ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน ยังพบว่าบัญชีของสีกายังมีความสัมพันธ์ในการโยกย้ายถ่ายเงินกับวัดสามพระยาและวัดอื่นๆ ภายใต้การปกครองของพระพรหมดิลกด้วย

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า หลังจากพบความสัมพันธ์ทางการเงิน ชุดสืบสวนจึงเข้าตรวจสอบรายละเอียดและสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องบางคน จนพบว่า มีวัดอย่างน้อยประมาณ 10 แห่งในเขตกรุงเทพฯ ที่สั่งซื้อเครื่องสังฆภัณฑ์จากร้านของสีกาคนนี้อย่างต่อเนื่องมานานนับสิบปี ทั้งใช้เงินของวัดเองที่ได้รับจากการบริจาค และเงินที่ได้รับอุดหนุนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และวัดแต่ละแห่งที่มีการสั่งซื้อสินค้านั้น เจ้าอาวาสผู้ปกครองวัด หรือผู้ช่วยเจ้าอาวาสก็มีความสนิทสนมกับพระพรหมดิลก และ พระอรรถกิจโกศล เลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพฯ ที่ถูกจับกุมพร้อมกับพระพรหมดิลกด้วย อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า พระสงฆ์ที่สั่งซื้อสินค้าจากร้านสังฆภัณฑ์แห่งนี้ ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ตั้งแต่ระดับเจ้าคุณชั้นสามัญขึ้นไปอย่างต่อเนื่องในรอบเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ การสืบสวนยังพบว่ายังคงมีอีกหลายวัดในกรุงเทพฯสั่งซื้อสินค้าจากร้านสังฆภัณฑ์นี้ แม้ว่าวัดจะไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงก็ตาม โดยมีการติดต่อผ่านพระอรรถกิจโกศลที่ทำหน้าที่เลขานุการ

มีรายงานว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่าจะมีการเรียกโยมสีกาคนนี้ พร้อมด้วย สามีมาสอบปากคำหรือไม่ และหากมีหลักฐานเพียงพอในการกระทำความผิดก็อาจจะพิจารณาออกหมายจับเพิ่มเติม รวมทั้งพระสงฆ์บางรูปตั้งแต่ระดับเจ้าคุณชั้นสามัญขึ้นไปที่พบความเกี่ยวพันก็อาจจะถูกเรียกตัวมาสอบปากคำด้วย อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นจะมีการส่งบันทึกการสืบสวนทั้งหมดที่เกี่ยวกับหลักฐานที่เชื่อว่ามีการวิ่งเต้นตำแหน่งหรือสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของพระพรหมดิลกไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เพื่อส่งต่อไปยังมหาเถระสมาคมเพื่อพิจารนาถึงความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งของพระสงฆ์แต่ละรูปต่อไป

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับกรณีที่ทำให้ พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ถูกกองปราบฯเสนอศาลอาญาออกหมายจับนั้น เนื่องจากตรวจสอบพบว่าพระพรหมเมธี ได้ทุจริตโอนเงินงบประมาณการจัดทำโครงการโรงเรียนพระปริยัติธรรม จำนวน 5 ล้านบาท ที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มอบให้กับทางวัดโดยอาศัยช่วงที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวรมหาเถร) เจ้าอาวาสกำลังอาพาธอยู่และเป็นช่วงที่ตัวเองได้เข้ามาดูแลบริหารจัดการทุกอย่างภายในวัดแทนชั่วคราว ทำการโอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้าสู่บัญชีธนาคารส่วนตัวของตนเองเพื่อนำไปใช้จ่ายส่วนตัว และพบว่า มีการโอนให้กับสีกาคนสนิท โดยที่ไม่ได้นำไปใช้ในการจัดทำโครงการโรงเรียนพระปริยัติธรรมตามที่สำนักพุทธฯมอบหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การขออำนาจศาลออกหมายจับดังกล่าว

 

 
กำลังแสดงหน้าที่ 1 จากทั้งหมด 0 หน้า [หน้าถัดไปคือหน้าที่ 2] 1
 

 
เงื่อนไขแสดงความคิดเห็น
1. ทุกท่านมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่กล่าวพาดพิง และไม่สร้างความแตกแยก
2. ผู้ดูแลระบบขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับคณะผู้จัดทำเว็บไซต์

ชื่อ :

อีเมล์ :

ความคิดเห็นของคุณ :
                                  

              * ใส่รหัสจากภาพที่เห็นลงในช่องด้านล่าง และใส่คำตอบจากคำถาม เพื่อยืนยันการส่งความเห็น
  และสำลีสีอะไร
    

          ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยสาธารณชน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อผู้เขียนที่้เห็นคือชื่อจริง และข้อความที่เห็นเป็นความจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ boyoty999@google.com  เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้