อย่าลักหลับ..??? นำเข้าเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2560 โดย จุฬา ศรีบุตตะ อ่าน [58544]
จี้คสช.เลิกคำสั่งลักหลับ ซัดเลิกผังเมืองEECเอื้อนายทุน
ผู้จัดการรายวัน360-ปชป.จี้"บิ๊กตู่" ทบทวน คำสั่ง คสช.ที่ 47/2560 ยกเลิกกฎหมายผังเมืองในพื้นที่ EEC ชี้เหมือนส่งเช็คเปล่าเอื้อนักลงทุน โดยไม่สนใจประชาชนในพื้นที่ ระบุไม่ใช่การพัฒนาที่ยั่งยืน และในอนาคตอาจเกิดสงครามระหว่างผู้ประกอบการกับภาคประชาชนเกิดขึ้นได้ ด้าน "รสนา"แนะควรให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ใช่แอบลักหลับ เตือนระวังซ้ำรอยนิรโทษกรรมสุดซอย จนอยู่ไม่ได้เหมือนรัฐบาลที่แล้ว .....
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.ระยอง เปิดเผยว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทบทวนคำสั่ง คสช.ที่ 47/2560 ยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายผังเมือง ในพื้นที่ EEC ใน 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เนื่องจากคำสั่งฉบับนี้ เป็นเสมือนเช็คเปล่าให้รัฐส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยไม่เป็นไปตามกฎหมายปกติ เป็นการแก้ปัญหาตามข้อเรียกร้องของฝ่ายนักลงทุน ซึ่งข้อดี ก็คือ ง่ายต่อการพัฒนาเพื่อสร้างตัวเลขทางเศรษฐกิจในมุมมองของนักลงทุน แต่ข้อเสีย คือ ตัดวงจรการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนตามกฎหมายปกติไป โดยอ้างว่าจำเป็นต้องทำ เพราะหากทำตามขั้นตอนจะไม่ทันต่อสถานการณ์ ไม่เอื้อต่อนักลงทุน
ทั้งนี้ ตนเห็นว่ารัฐควรยึดหลักความสมดุลในการอยู่ร่วมกันระหว่างการพัฒนาอุตสาหกรรมกับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมา มีการจัดทำผังเมืองที่รับฟังความเห็นประชาชนในพื้นที่แล้ว แต่กลับถูกยกเลิกไป ทำให้การดำเนินนโยบายเป็นการมองลงมาจากข้างบนอย่างดียว จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนคำสั่งดังกล่าว แล้วกลับมาใช้กฎหมายปกติ หากเห็นว่าส่วนไหนของกฎหมายมีปัญหา ก็แก้ตรงจุดนั้น จะเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนมากกว่า
"ขณะนี้ที่ยังไม่ปรากฏความขัดแย้งระหว่างภาครัฐ ผู้ประกอบการ กับประชาชนอย่างชัดเจน เป็นเพราะฝ่ายผู้ประกอบการเสนอผลประโยชน์ให้กับผู้นำชุมชน ให้สนับสนุนการดำเนินการของภาครัฐ ซึ่งผิดหลักการสร้างสมดุลอย่างยั่งยืน ที่ต้องให้ข้อมูลอย่างโปร่งใส ให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วมในการตรวจสอบมาตรฐานอุตสาหกรรม และยังทำให้เกิดปัญหาภายในชุมชน ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังในพื้นที่ จนนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประชาชน กับผู้ประกอบการที่รุนแรงมากขึ้นในอนาคต"
นายสาธิตกล่าวว่า การใช้มาตรา 44 มายกเลิกกฎหมายผังเมืองเดิมทั้งหมด จะทำให้เจ้าหน้าที่สับสนในการปฏิบัติว่าเดิมในพื้นที่ที่เป็นสีชมพู สีเหลือง สีม่วง มีหลักเกณฑ์ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของแต่ละสี เมื่อยกเลิกไปแล้ว จะต้องทำอย่างไร นอกจากนี้ การประเมินของนักลงทุนที่จะซื้อที่ดินแปลงไหน ในราคาเท่าไร ก็จะเกิดความสับสนด้วย ดังนั้น หากเป็นไปได้ก็ขอให้ทบทวน โดยหันไปดูโครงสร้างกฎหมายเดิมแล้วแก้ไขอุปสรรคตรงนั้น ไม่ควรใช้ มาตรา 44 มาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลักที่อาจจะทำให้เกิดปัญหามากขึ้น
"เรื่องนี้ รัฐบาลต้องชั่งน้ำหนักระหว่างคุณภาพชีวิตประชาชนกับตัวเลขทางเศรษฐกิจ เพราะในระยะยาวอาจเกิดความขัดแย้งที่กลายเป็นสงครามระหว่างผู้ประกอบการ กับภาคประชาชนได้ จากสิ่งที่รัฐบาลเป็นคนสร้างปมเอาไว้"นายสาธิตกล่าว
ด้านน.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว. กทม. ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว มีใจความว่า การที่หัวหน้า คสช. ประกาศใช้มาตรา44 เพื่อยกเลิกผังเมือง3จังหวัดในวันที่ 25 ต.ค.2560 ซึ่งอยู่ในช่วงที่ประชาชนทั้งประเทศกำลังแสดงการไว้อาลัยครั้งสุดท้ายในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร เป็นสิ่งที่สมควรแล้วหรือ?
เรื่องสำคัญเช่นนี้จะรีบร้อนอะไรกันนักหนาสมควรรอให้พระราชพิธีสำคัญนี้ผ่านพ้นไปเสียก่อน และควรให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศและสื่อมวลชนมีส่วนร่วมรับรู้ และแสดงความคิดเห็นถึงผลดีผลเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 แล้ว คสช.จึงควรเลิกใช้อำนาจตามมาตรา44 มาเหนือ (over rule) กฎหมายหลักของบ้านเมืองได้แล้ว ตามรัฐธรรมนูญ ประชาชน คือ เจ้าของอำนาจอธิปไตยไม่ใช่หัวหน้า คสช. ที่จะใช้อำนาจโดยพลการและขาดความเกรงใจประชาชนกันแบบนี้
การใช้อำนาจมาตรา44ในช่วงเวลาเช่นนี้ ก็ไม่ต่างจากการออกกฎหมายลักหลับนิรโทษกรรมสุดซอยในสมัยรัฐบาลเลือกตั้งชุดที่ผ่านมา ที่ถูกคัดค้านจนรัฐบาลอยู่ไม่ได้ เพราะการใช้อำนาจไม่เป็นธรรม ใช่หรือไม่?
LINE it!
|