เตรียมเอาคืน นำเข้าเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2559 โดย จุฬา ศรีบุตตะ อ่าน [58536]
สหรัฐไล่พ้นประเทศใน72ชม.
ฐานแฮกข้อมูล-ป่วนเลือกตั้ง
ปธน.ปูตินกร้าว!เตรียมเอาคืน
.....
ขับ35ทูตรัสเซีย
สหรัฐฯขับ 35 นักการทูตรัสเซีย พ้นประเทศภายใน 72 ชั่วโมง เซ่นข้อหาโจมตีไซเบอร์ แทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี ขณะที่ “ประธานาธิบดีปูติน” เตรียมตอบโต้ ยันข้อหาไม่มีมูล-ขัดกฎหมายความขัดแย้งระหว่าง “สหรัฐอเมริกา-รัสเซีย” ลุกลามบานปลายส่งท้ายปีโดยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ว่า สหรัฐฯได้ประกาศขับ 35 นักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อเป็นการลงโทษต่อข้อกล่าวหาของทางการสหรัฐฯเมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่ารัสเซียได้ทำการโจมตีทางไซเบอร์เพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯประกาศรายชื่อนักการทูตรัสเสีย 35 รายจากสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.รวมถึงสถานกงสุลใหญ่รัสเซีย ณ นครชิคาโก ว่า เป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ และให้เวลาบุคคลเหล่านี้ รวมถึงครอบครัว 72ชั่วโมง เพื่อเดินทางออกจากสหรัฐฯทันที นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้ปิดที่ทำการด้านการทูตรัสเซีย 2แห่งในนิวยอร์กและแมรีแลนด์ ที่ทางการสหรัฐฯอ้างว่าหน่วยข่าวกรองรัสเซียใช้รวบรวมข้อมูลอีกด้วย
บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯออกแถลงการณ์ว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นเรื่องจำเป็นและเป็นการตอบโต้ที่เหมาะสมต่อความพยายามที่จะทำลายผลประโยชน์ของสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯจะยกเลิกชั้นความลับของข้อมูลทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมบนโลกไซเบอร์ของรัสเซีย เพื่อช่วยให้เครือข่ายต่างๆในสหรัฐฯและทั่วโลกสามารถระบุตัว ตรวจสอบ และป้องกันการดำเนินกิจกรรมบนโลกไซเบอร์ ที่ไม่มีเจตนาดีของรัสเซียต่อทั่วโลกได้
ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวหา วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ว่าเป็นผู้สั่งการโดยตรงให้มีการเจาะระบบสหรัฐฯที่สมาชิกพรรคพวกเดโมแครตจำนวนมากเชื่อว่ามันกัดเซาะโอกาสก้าวเข้าสู่ทำเนียบขาวของนางฮิลลารี คลินตัน ระหว่างการชิงชัยกับ โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากรีพับลิกัน โดยข่าวกรองสหรัฐฯสรุปว่า การแฮกระบบและเผยแพร่อีเมลพรรคเดโมแครต และทีมหาเสียงของคลินตัน มีเป้าหมายเพื่อผลักดัน ทรัมป์ ซึ่งชื่นชมปูติน ให้ก้าวเข้าสู่ทำเนียบขาว
สหรัฐฯยังกล่าวหาว่า ศูนย์อำนวยการข่าวกรองหลักของกองทัพรัสเซีย (GRU) เจาะข้อมูลโดยมีเจตนาแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยมีสำนักงานความมั่นคงกลาง (FSB) คอยช่วยเหลือ มาตรการลงโทษของสหรัฐฯคือ ทั้ง 2 หน่วยงานจะถูกคว่ำบาตร เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ของ GRU 4 ราย หนึ่งในนั้นรวมถึง อิกอร์ วาเลนติโนวิช โคโรบอฟ หัวหน้าศูนย์ข่าวกรองแห่งนี้ ขณะเดียวกันกระทรวงการคลัง สหรัฐฯ ได้ลงโทษนายเอฟกินีย์ มิคาอิโลวิช โบกาเชฟ และ อเลคเซย์ อเลคเซเยวิช เบลาน ฐานเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มาตรการดังกล่าวจะเป็นการอายัดทรัพย์สินในสหรัฐฯและห้ามภาคธุรกิจสหรัฐฯคบค้ากับพวกเขา โดยสหรัฐเตือนว่ามาตรการนี้เป็นเพียงการ “เรียกน้ำย่อย”
ด้านกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (ดีเอชเอส) และสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐฯเผยแพร่รายงานร่วมกันที่มีความยาว 13 หน้า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ว่าหน่วยข่าวกรองรัสเซียแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2016 พร้อมเผยแพร่รายงานที่ให้ข้อมูลเฉพาะเจาะจง เช่น ตัวอย่างรหัสคอมพิวเตอร์อันตราย (malicious code) ที่ถูกใช้ในปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่กลางปี ค.ศ.2015
รายงานฉบับดังกล่าวได้เผยแพร่ตัวอย่างมัลแวร์ที่ “แฮกเกอร์รัสเซีย” ใช้เจาะระบบ และระบุว่า “มีหลายกรณี” ที่เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของรัสเซีย แฝงตัวเข้าสู่โลกออนไลน์ในฐานะ “บุคคลที่สาม” แล้วส่งลิงก์มัลแวร์ไปยังที่อยู่อีเมลของผู้ใช้มากกว่า 1,000 คน เป้าหมายมีทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯและพรรคเดโมแครต
พนักงานสืบสวนพบว่าหนึ่งในแฮกเกอร์ที่จารกรรมอีเมลมาส่งมอบให้แก่วิกิลีกส์ ใช้นามแฝงว่า “Guccifer 2.0” ซึ่งเอฟบีไอเชื่อว่าเชื่อมโยงถึงรัฐบาลมอสโก โดยอีเมลของพรรคเดโมแครตที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของวิกิลีกส์ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับปัญหาภายในพรรค และความพยายามขัดขวางไม่ให้นายเบอร์นี แซนเดอร์ส ชนะนางฮิลลารี คลินตัน ในการชิงตำแหน่งตัวแทนพรรค ตลอดจนอีเมลจากบัญชีส่วนตัวของนายจอห์น โพเดสตา ประธานแคมเปญของคลินตัน ที่บ่งชี้ถึงการได้รับคำถามการดีเบตล่วงหน้า ซึ่งเรื่องอื้อฉาวเหล่านี้ส่งผลให้นางเด็บบี้ วาสเซอร์แมนน์ ชูลซ์ ต้องลาออกจากตำแหน่งประธานพรรคเดโมแครต
รายงานฉบับนี้เป็นผลวิเคราะห์ด้านเทคนิคจากรัฐบาลสหรัฐฯที่ให้รายละเอียดชัดเจนมากที่สุด และเป็นถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการฉบับแรกของเอฟบีไอด้วย ซึ่งรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาโดยตลอด
ด้านนายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ออกถ้อยแถลงในทันที ว่า ประธานาธิบดีปูติน จะตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวด้วยมาตรการที่ “เหมาะสมกัน” เพราะเห็นว่าเป็นการดำเนินนโยบายทางการทูตที่ก้าวร้าว ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตาม รัสเซียมีความสงสัยต่อประสิทธิผลของมาตรการนี้ เพราะรัฐบาลโอบามาจะพ้นจากตำแหน่งใน 3 สัปดาห์ข้างหน้า
ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 45 ออกแถลงการณ์ว่า ขณะนี้ถึงเวลาที่สหรัฐฯจะต้องเดินหน้าไปสู่สิ่งที่ดีกว่าและยิ่งใหญ่กว่า เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน โดยเขาจะพบกับหัวหน้าหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหมด เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของประเด็นดังกล่าวในสัปดาห์หน้า
|