พระมหากษัตริย์ไทยในแผ่นดินนี้ (1)
นำเข้าเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2559 โดย จุฬา ศรีบุตตะ
อ่าน [58672]  

.....

พระมหากษัตริย์ไทยในแผ่นดินนี้ (1)

 

                       “เจอบันทึกนี้ ให้เอาคำต่อไปนี้ของกูไปประกาศให้คนรู้ว่า กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของพระปิยมหาราช ขอประกาศให้พวกมึงรับรู้ไว้ว่าแผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษได้เอาเลือดเอาเนื้อเอาชีวิตเข้าแลก

                     ไอ้อีมันผู้ใดคิดบังอาจทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ฤากระทำทุจริต ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อส่วนรวม จงหยุดการกระทำนั้น ก่อนที่กูจะสังหารผลาญสิ้นทั้งโคตร ให้หมดเสนียดแผ่นดินของสยาม อันเป็นที่รักของกู

                   ตราบใดที่มีคำว่า “อาภากร” ยังคงในโลก กูจะรักษาแผ่นดินสยามของกูและลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินไทยให้เรากำเนิดมา แผ่นดินได้ให้ที่ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น”

บันทึกของเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

                       นำมาให้อ่านกันเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจเตือนสติคนทุกคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินผืนนี้ โดยเฉพาะผู้หลงผิด
ทั้งหลายที่ไม่คำนึงถึงความผิดชอบชั่วดี ยังประพฤติปฏิบัติตนในทางที่มิชอบเพื่อประโยชน์ตน มากกว่าประโยชน์ของส่วนรวม

                     ขณะนี้บ้านเมืองของเรากำลังตกอยู่ในภาวะยุ่งยากหลายอย่าง ความตกต่ำทรุดโทรมของบ้านเมืองยังคงเดินหน้าต่อไป เพราะยังมีคนบางกลุ่มบางพวกที่ไม่คำนึงความชั่วดีใดๆ จิตใจยังไม่มีการชำระสะสางความสกปรกโสมมทั้งหลายที่เกาะติดอยู่ แย่งชิงอำนาจกันเพื่อประโยชน์ตนและพรรคพวก ระดมผู้คนมาจัดตั้งให้เป็นโน่นเป็นนี่เพื่อเป็นเครื่องมือในการทำงานให้ตนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ หรือในวงการราชการประจำ

                    และสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ไม่ควรมองข้ามก็คือเรื่องการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งคำพูดและการกระทำในรูปแบบต่างๆในลักษณะจาบจ้วง บิดเบือน ให้ร้าย ซึ่งยังคงมีอยู่ตลอดเวลาในขณะนี้ ทั้งๆที่เกิดบนแผ่นดินผืนนี้ที่พระมหากษัตริย์สร้างไว้และให้ไว้ในการดำรงชีวิตมาชั่วลูกชั่วหลาน ดังที่กรมหลวงชุมพรฯ บันทึกไว้ว่า “บรรพบุรุษได้เอาเลือดเอาเนื้อเข้าแลก”

                     คนที่ไม่ได้เรียนหนังสือหรือจดจำประวัติศาสตร์ไม่ได้นั้น เป็นคนที่สมควรอภัยให้ แต่คนที่ร่ำเรียนมาหรือมีความรู้สูงๆ จบมาจากมหาวิทยาลัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้กระทั่งครูบาอาจารย์บางคนที่กระทำตัวไม่เหมาะสมทั้งคำพูดและการกระทำในลักษณะจาบจ้วง ให้ร้ายสถาบันสูงสุดของชาติในลักษณะต่างๆตามที่ปรากฏให้เห็นบ่อยๆนั้น คนพวกนี้สมควรต้องดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เป็นบุคคลที่ไม่สมควรได้รับการอภัยถ้าไม่รับผิด

เพราะคนเหล่านี้เป็นคนทรยศต่อพระมหากษัตริย์

                        คนไม่จงรักภักดีหรือเป็นคนทรยศต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยนั้น เป็นคนเนรคุณต่อแผ่นดินผืนนี้ที่พระมหากษัตริย์ไทยทรงสร้างให้ไว้ได้อยู่อาศัย แม้กระทั่งความเอาใจใส่ดูแลความทุกข์ความสุขของผู้คนทั้งหลายในแผ่นดินผืนนี้มาโดยตลอดในแต่ละยุคแต่ละสมัย

                        ประเทศไทยตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงในยุคกรุงสุโขทัยซึ่งเสวยราชย์ประมาณปี พ.ศ.1882 ถึงประมาณปี พ.ศ.1841 นั้น พระองค์ทรงปกครองแบบพ่อกับลูก ทรงเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขของราษฎรอย่างใกล้ชิด โปรดให้แขวงกระดิ่งไว้ที่ประตูพระราชวัง เพื่อให้ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน และไม่ได้รับความเป็นธรรม ไปสั่นกระดิ่งกราบทูลความเดือดร้อนของตนให้พระองค์ทราบ พระองค์จะทรงตัดสินด้วยพระองค์เอง ทั้งยังได้ประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้นใช้เป็นครั้งแรก สืบทอดกันมาจนถึงทุกวันนี้ นับเป็นการให้การศึกษาแก่ประชาชนสืบทอดกันมาถึงทุกวันนี้

                      สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อปี พ.ศ.2133 สิริรวมการครองราชย์ 15 ปี ได้ทรงกู้อิสรภาพของไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาเป็นครั้งแรก และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทยอย่างกว้างใหญ่ไพศาล นับตั้งแต่ประเทศพม่าตอนใต้ทั้งหมด จากฝั่งมหาสมุทรอินเดียด้านตะวันตก ไปถึงฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางด้านตะวันออก ทางด้านทิศใต้ตลอดไปจนถึงแหลมมลายู ทางด้านทิศเหนือก็ถึงฝั่งแม่น้ำโขงโดยตลอด และรวมถึงรัฐไทยใหญ่

                       สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงครองราชย์ในปี พ.ศ.2199 ถึง พ.ศ.2231 เป็นพระมหากษัตริย์ผู้เลื่องลือพระเกียรติยศในพระราโชบายทางคบค้าสมาคมกับชาวต่างประเทศ รักษาเอกราชของชาติให้พ้นจากการเบียดเบียนของชาวต่างชาติ และรับผลประโยชน์ทั้งทางวิชาการและทางเศรษฐกิจที่ชาวต่างชาตินำเข้ามา โดยทรงใช้พระปรีชาญาณตอบปฏิเสธพระราชสาส์นของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งราชวงศ์บูร์บองของฝรั่งเศส ที่ทูลเชิญสมเด็จพระนารายณ์เข้ารับนับถือคริสต์ศาสนาอย่างทะนุถนอมไมตรี

                 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ในสมัยอาณาจักรธนบุรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310 โดยทรงกอบกู้เอกราชจากพม่าภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 โดยขับไล่ทหารพม่าออกจากราชอาณาจักรจนหมดสิ้น และยังทำสงครามตลอดรัชสมัยเพื่อรวบรวมแผ่นดินไทยซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของก๊กต่างๆในประเทศ เพื่อให้กลับคืนสู่ภาวะปกติหลังสงคราม

เมื่อสิ้นยุคพระเจ้าตากสิน ก็เข้าสู่ราชวงศ์จักรีถึงขณะนี้

                   พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 ทรงออกศึกทำสงครามเก้าทัพกับพระเจ้าปะดุงกษัตริย์พม่าซึ่งยกทัพเข้ามาตีเมืองไทย ตั้งแต่เหนือจรดใต้รวม 9 ทัพด้วยกัน

กองทัพไทยตีกองทัพพม่าแตกยับเยินไป

โปรดเกล้าฯจัดทำกฎหมายขึ้นปกครองประเทศ

(อ่านต่อวันอังคาร)

น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ

 

 
กำลังแสดงหน้าที่ 1 จากทั้งหมด 0 หน้า [หน้าถัดไปคือหน้าที่ 2] 1
 

 
เงื่อนไขแสดงความคิดเห็น
1. ทุกท่านมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่กล่าวพาดพิง และไม่สร้างความแตกแยก
2. ผู้ดูแลระบบขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับคณะผู้จัดทำเว็บไซต์

ชื่อ :

อีเมล์ :

ความคิดเห็นของคุณ :
                                  

              * ใส่รหัสจากภาพที่เห็นลงในช่องด้านล่าง และใส่คำตอบจากคำถาม เพื่อยืนยันการส่งความเห็น
  และสำลีสีอะไร
    

          ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยสาธารณชน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อผู้เขียนที่้เห็นคือชื่อจริง และข้อความที่เห็นเป็นความจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ boyoty999@google.com  เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้