ศาสตร์พระราชากับการก้าวสู่ ไทยแลนด์ 4.0 นำเข้าเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2559 โดย จุฬา ศรีบุตตะ อ่าน [58513]
..... พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 โดยมีสาระสำคัญว่าด้วยการดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย จะต้องทำควบคู่ไปกับการลงทุนเดินหน้าประเทศไปสู่ “ไทยแลนด์ 4.0” และเรื่องอื่นๆที่สำคัญดังนี้ การรวมกลุ่มของเกษตรกร - การสนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มอาชีพ “กลุ่มพลังเกษตรกร” ในพื้นที่เดียวกัน เพื่อให้เกิดช่องทางใหม่ มีผลผลิตที่มีคุณภาพเป็นมวลรวม ควบคุมคุณภาพเพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรอง รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งในสหกรณ์ภาคการเกษตรกว่า 4,000 แห่ง
จัดให้มีการลงทะเบียนที่ชัดเจนเพื่อสะดวกในการที่รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณในการช่วยเหลือ การบริหารและการกำหนดนโยบายของรัฐบาล “ศาสตร์พระราชา” สู่ “ศูนย์การเรียนรู้” - หน่วยงานราชการของแต่ละกระทรวงฯที่ได้น้อมนำ “ศาสตร์พระราชา” มาจัดตั้งเป็น “ศูนย์การเรียนรู้” กว่า 10,000 แห่ง ทั่วประเทศ ประกอบด้วย ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่, ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร และศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน ฯลฯ ทั้งนี้ก็เพื่อจะสร้าง “Smart Farmer” เกษตรกรยุคใหม่ - การรวมกลุ่มตาม “โครงการข้าวขวัญสุพรรณ” ซึ่งน้อมนำ “ศาสตร์พระราชา” ในเรื่อง “การระเบิดจากข้างใน” ของมูลนิธิขวัญข้าว, สมาคมโรงสีข้าวสุพรรณบุรี และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสุพรรณบุรี ในการร่วมพัฒนาพันธุ์ข้าวพื้นเมือง คือ “ขาวตาเคลือบ” ผลิตเป็นข้าวปลอดสารพิษ ภาพรวมโครงการ “เกษตรแปลงใหญ่” - รัฐบาล สามารถดำเนินการได้แล้ว จำนวน 600 แปลง ด้วยอาศัยกลไก “ประชารัฐ” มีเกษตรกรได้รับผลประโยชน์แล้ว ราว 97,000 ราย ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมประมาณ 1.5 ล้านไร่ - “สินค้าข้าว” สามารถเพิ่มผลผลิตเฉลี่ย ร้อยละ 13 และลดต้นทุนการผลิตได้ ร้อยละ 19 และยังสามารถช่วยเหลือเกษตรกร ในเรื่ององค์ความรู้, การบริหารจัดการ, การเข้าถึงแหล่งเงินทุน, การแปรรูป, การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ และการตลาด เป็นต้น - ในปี 2560 มีเป้าหมาย “เพิ่มเติม” อีก 400 แปลง เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ที่ตามแนวทางพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมุ่งหวังให้เกิดการรวมกลุ่มประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหาหลักของชุมชนชนบท ดังเช่นการจัดตั้งกลุ่มสหกรณ์ในโครงการพระราชดำริ โครงการบริหารจัดการน้ำ แนวทางแห่ง “ศาสตร์พระราชา” - การใช้ Agri Map (แผนที่ทางการเกษตร) เป็นเครื่องมือในการกำหนดพื้นที่ทำเกษตรกรรม ให้สอดคล้องกันทั้งมิติของ “ประเภทพืช – พื้นที่ – ฤดูกาล - ปริมาณน้ำ – และตลาด” - ครม.
ได้เห็นชอบในหลักการ การน้อมนำแนวทางพระราชดำริ มาประยุกต์ใช้ในแผนงานการบรรเทาอุทกภัย พื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ตาม“โครงการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ” ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดพื้นที่น้ำท่วมได้ ถึง 3.58 ล้านไร่ ใน 14 จังหวัดภาคกลาง การศึกษา กับ การพัฒนาประเทศ - การบริหารจัดการ “โรงเรียนขนาดเล็ก”โดยกำหนดเป็นโครงการ“โรงเรียนดีใกล้บ้าน” หรือ “โรงเรียนแม่เหล็ก” สำหรับเป็นโรงเรียนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ให้มีคุณภาพการศึกษา ที่ดีและได้มาตรฐานเช่นเดียวกับโรงเรียนที่อยู่ในเมือง หรือในโรงเรียนขนาดใหญ่ ให้มีความเท่าเทียมกันในอนาคต - น้อมนำแนวทางพระราชดำรัส ที่ว่า “เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต ไม่มีจิตใจ ที่ว่าจะอบรมโดยใช้สื่อที่ก้าวหน้าที่มีเทคโนโลยีสูงแต่เพียงอย่างเดียวนั้นเป็นเรื่องยากที่สุด ไม่มีอะไรทดแทนคนสอนคนและการอ่านจากหนังสือได้”
แสดงให้เห็นว่า “ครู– อาจารย์” มีความสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะสอนคนให้เป็นคน - การใช้กลไก “ประชารัฐ” ภายใต้โครงการ “คอน-เน็ต-อี-ดี” (CONNEXT-ED) เพื่อจะดูแลโรงเรียนในช่วงแรก จำนวน 3,342 โรงเรียน และขยายผลให้ครบ 7,424 โรงเรียนในปี 2560 ให้เป็น “โรงเรียนต้นแบบประชารัฐ” - “กองทุนการศึกษาวิจัย” เพื่อเพิ่มศักยภาพ การค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีแห่งอนาคตใน 4 ด้าน คือBio, Nano, Robotic และ Digital ให้สอดคล้องกับนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ในการผลิต “แรงงานมีทักษะฝีมือ” เพื่อป้อน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย
|