การใช้ปาก หรือ Oral Sex มักเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการเล้าโลมก่อนที่จะมีเซ็กซ์ และหลายคนชอบซะด้วย แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้ปาก ไม่ได้ปลอดภัย 100% และมีความเสี่ยงต่อการติดโรคด้วย ถ้าไม่ระวังให้ดี
ในวันนี้ เราลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของโอษฐกามกัน
ติด AIDS หรือไม่ : มีความเสี่ยง แต่ไม่มากเท่ากับการมีเพศสัมพันธ์ปกติ เพราะเงื่อนไขในการติดต่อ ค่อนข้างเยอะกว่า โดยเฉพาะการมีแผลในปาก ว่ากันว่า การติดต่อโรค AIDS มาจากสารคัดหลั่งของผู้ที่มีเชื้อ HIV ดังนั้นเมื่อคุณมีแผลในช่องปาก อย่าเสี่ยงที่จะทำ Oral Sex ให้ใคร เพราะนั่นเท่ากับว่าคุณจะเสี่ยงมาก และว่ากันว่าฝ่ายหญิงที่กระทำให้ฝ่ายชายมีโอกาสติดเชื้อ HIV มากกว่าฝ่ายชายที่กระทำให้หญิง
ถ้าหลั่งข้างนอกจะติดเชื้อไหม : ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ดี เพราะอย่างที่เราเคยนำเสนอบทความมาก่อนหน้านี้ว่าแม้ว่าฝ่ายชายจะยังไม่หลั่งออกมา แต่ในจังหวะที่กำลังทำอะไรอยู่นั้นจะมีน้ำกามซึมออกมาเล็กน้อย และนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คุณติดโรคได้ ถ้าคุณมีแผลที่ปาก ดังนั้น ว่ากันว่า ก่อนการมี Sex ไม่ควรที่จะแปรงฟัน เพราะการแปรงฟันมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดแผลในปาก หรือเลือดออกตามไรฟันได้
กลืนน้ำเชื้อแล้วจะเป็นอะไรไหม? : ตราบใดที่คุณไม่มีแผลในปาก โอกาสที่จะติดเชื้อก็น้อยลง แต่ก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี
อยาก Oral Sex แต่จะทำอย่างไรถึงปลอดภัย : ต้องสวมถุงยางอนามัยเพียงอย่างเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย 100% เพราะในปากยังมีฟันซึ่งเสี่ยงต่อการทำให้เกิดการฉีกขาดของถุงยาง หากไม่ระมัดระวัง โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีเหล็กดัดฟัน
ไม่ใช่แค่ AIDS อย่างเดียว : ฝ่ายชายมีสิทธิ์ที่จะติดโรคอื่นๆ จากฝ่ายหญิง ในกรณีที่เจ้าของปาก มีโรคติดต่ออยู่แล้วในช่องปากและคอ รวมถึงโรคอื่นๆ เช่น เริม หนองใน หรือหูด นอกจากนั้น ยังมีงานวิจัยระบุว่า การทำ Oral Sex ไม่ใช่เพียงแค่จะทำให้คู่รักเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV เท่านั้น แต่เชื้ออาจพัฒนาไปสู่การเป็นมะเร็งในลำคอ และอาจส่งผลกระทบไปถึงลิ้นและต่อมทอนซิลด้วย โดยผู้ที่ทำ Oral Sex มีโอกาสเป็นมะเร็งในลำคอมากกว่าคนทั่วไปถึง 8.6 เท่า คนที่สูบบุหรี่เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายนี้มากกว่าคนทั่วไป 3 เท่า ส่วนคนที่ดื่มสุรามีอัตราความเสี่ยงอยู่ที่ 2.5 เท่า
ที่มา - Playboy Thailand