มหัศจรรย์วัดเขาตะปูดูน่าทึ่ง
นำเข้าเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2559 โดย  
อ่าน [58542]  

เปิดโลกรัฐกะเหรี่ยง เมียนมาร์ ที่“พะอัน”...มหัศจรรย์วัดเขาตะปูดูน่าทึ่ง/ปิ่น บุตรี .....

 
 
 
 
 
1
        โดย : ปิ่น บุตรี(pinn109@hotmail.com)

 
เปิดโลกรัฐกะเหรี่ยง เมียนมาร์ ที่“พะอัน”...มหัศจรรย์วัดเขาตะปูดูน่าทึ่ง/ปิ่น บุตรี
        “สุดประจิมที่ริมเมย”
       
       สโลแกนบ่งบอกความเป็นเมืองชายแดนสำคัญของ อ.แม่สอด จ.ตาก หนึ่งในพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนสำคัญทางฝั่งตะวันตกของไทยที่ได้รับการตั้งให้เป็น “เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ” ซึ่งมีด่าน“แม่สอด-เมียวดี”เป็นอีกหนึ่งประตูในการไปมาหาสู่กันระหว่างไทยกับเมียนมาร์(พม่า)
       
       และด้วยความสำคัญของด่านชายแดนแม่สอด โดยเฉพาะในยุคหลังการเข้าสู่“ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” หรือ AEC ซึ่งทำให้เมืองแม่สอดทวีความคึกคักมากยิ่งขึ้น ทาง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)” จึงได้จับมือกับ “หอการค้าจังหวัดตาก” จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า การลงทุนใน อ.แม่สอด ขึ้น ภายใต้ “โครงการแอ่วเหนือม่วนใจ๋ ก้าวไกลสู่ AEC” ด้วยการจัดคาราวานสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว การค้า การลงทุน ในเส้นทาง“แม่สอด-ผาอัน(พะอัน)-มะละแหม่ง-ไจก์โถ่-กรุงย่างกุ้ง-กรุงเทพฯ” ที่จัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

 
เปิดโลกรัฐกะเหรี่ยง เมียนมาร์ ที่“พะอัน”...มหัศจรรย์วัดเขาตะปูดูน่าทึ่ง/ปิ่น บุตรี
        1...
       
       จากเมืองไทยที่ด่านชายแดนแม่สอด คณะเราออกเดินทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาร์ ข้ามแดนสู่เมืองเมียวดีพม่ากันตั้งแต่เช้าตรู่ ใช้เวลาในขั้นตอนผ่านแดนราวๆหนึ่งชั่วโมง(เนื่องจากเป็นคณะใหญ่)แล้วจึงมุ่งหน้าจากด่านเมืองเมียวดีสู่“เมืองพะอัน” หรือเมืองผาอัน(Hpa An)เป็นเมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง ที่อยู่ห่างจากด่านชายแดนแม่สอดประมาณ 150 เมตร
       
       อย่างไรก็ดีแม้เส้นทางสายเมืองพะอัน-เมียวดี-แม่สอด จะเคยเป็นเส้นทางเศรษฐกิจชายแดนสำคัญระหว่างท้องถิ่นกับท้องถิ่นมานับแต่อดีต แต่ด้วยปัญหาด้านเสถียรภาพทางการเมืองของพม่าที่มีการสู้รบมายาวนาน รวมไปถึงปัญหาด้านสภาพของถนนนั้น ได้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาเส้นทางสายนี้
       
       โดยถนนจากเมืองเมียวดีสู่เมือง“กอกะเร็ก”(Kawkareik)ที่จะผ่านไปยังเมืองพะอันนั้น เป็นเส้นทางสมบุกสมบันลดเลี้ยวเคี้ยวโค้งขึ้นเขาลงเขา บางช่วงเป็นถนนลูกรังทำให้ต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง กว่าจะผ่านพ้นเส้นทางสายนี้ไปได้(ส่วนในช่วงหน้าฝนบางครั้งอาจต้องใช้เวลานานถึง 4-5 ชม.เนื่องจากถนนลื่นและเละ)
       
       แต่มาวันนี้ทุกอย่างปลดล็อก เมียนมาร์มีการเลือกตั้ง มีประธานาธิบดีพลเรือนคนแรก(ในรอบ 100ปี) ขณะที่ถนนสาย“เมียวดี-กอกะเร็ก”ที่ถือเป็นอีกหนึ่งถนนสายหฤโหดนั้น วันนี้มีการตัดเส้นทางใหม่ในยะยะทาง 45 กม. เป็นถนนลาดยางใหม่กริบ(ถนนสายนี้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อ 31 ส.ค. 58)ไม่ต้องขึ้นเขาลดเลี้ยวเคี้ยวโค้ง ใช้เวลาเดินทางสบายๆแค่ 45 นาที ช่วนย่นระยะเวลาในการเดินทางลงมาได้มาก โดยจากด่านแม่สอดมาสู่เมืองพะอันใช้เวลาแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงยังเมืองพะอัน

 
เปิดโลกรัฐกะเหรี่ยง เมียนมาร์ ที่“พะอัน”...มหัศจรรย์วัดเขาตะปูดูน่าทึ่ง/ปิ่น บุตรี
        2...
       
       ด้วยความที่ถนนตัดใหม่ คณะขบวนคาราวานของเราจึงวิ่งฉลุย มาถึงเมืองพะอันก่อนกำหนดเวลา ไกด์ของเราจึงพาไปแวะไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลกันที่ “วัดเก๊าะกะตาว”(Kaw Ka Thaung) หรือ “วัดถ้ำ” ซึ่งใน 2 ฟากฝั่งถนนระหว่างทางที่แยกเข้าสู่วัด จะมีรูปปั้นพระเดินบิณฑบาตจำนวนมากยืนเป็นแถวเรียงรายนำทางเข้าสู่วัดแห่งนี้
       
       วัดเก๊าะกะตาว มีทั้งส่วนที่เป็นสิ่งก่อสร้างวิหาร พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่อยู่หน้าถ้ำและใต้เพิงผาถ้ำ กับส่วนของวัดภายในถ้ำที่มีพระพุทธรูปอันหลากหลายอยู่ตามริมผนังของถ้ำให้สักการะบูชา พร้อมกันนี้ที่ผนังหรือเพดานถ้ำในบางช่วงยังโดดเด่นไปด้วยพระองค์เล็กๆ ลักษณะคล้ายพระเครื่องบ้านเรา ประดับบูชาอยู่เป็นจำนวนมากนับพันองค์ มีทั้งพระที่นำมาติดไว้ที่ผนังถ้ำ และพระที่แกะสลักขึ้นจากผนังถ้ำซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของวัดแห่งนี้

 
เปิดโลกรัฐกะเหรี่ยง เมียนมาร์ ที่“พะอัน”...มหัศจรรย์วัดเขาตะปูดูน่าทึ่ง/ปิ่น บุตรี
        น้อง“มอญ”ไกด์สาวที่ไม่ได้เป็นคนมอญหากแต่เป็นชาวไทใหญ่ ผู้นำคณะผมตะลอนทัวร์ในทริปนี้ บอกว่า วัดเก๊าะกะตาวเป็นวัดเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ชาวพม่าเชื่อว่าในอดีตถ้ำแห่งนี้เคยมีเต่ากับจระเข้มาถือศีลอยู่ ที่นี่จึงเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งภายในถ้ำได้มีการสร้างรูปของเต่ากับจระเข้คลานอยู่คู่กันเอาไว้ด้วย เพื่อสื่อให้เห็นถึงตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำแห่งนี้
       
       หลังไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย คณะเราไปกินข้าวเที่ยงกันในร้านอาหารที่อยู่แถวนั้น แล้วออกเดินทางต่อไปยังตัวเมืองพะอัน ไปดูความเป็นมาเป็นไปของเมืองหลวงรัฐกะเหรี่ยงหลังประเทศเมียนมาร์ยุคใหม่ได้เปิด AEC และเปิดประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งพะอันนั้นถือเป็นเมืองผ่านสำคัญจากแม่สอดไปยังสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสูงสุดของพม่าอย่าง “พระธาตุอินทร์แขวน”(เมืองไจ่โถ่ว์) และ “พระมหาเจดีย์ชเวดากอง”(เมืองย่างกุ้ง) ที่คณะเรามุ่งหน้าไปในทริปนี้

 
เปิดโลกรัฐกะเหรี่ยง เมียนมาร์ ที่“พะอัน”...มหัศจรรย์วัดเขาตะปูดูน่าทึ่ง/ปิ่น บุตรี
        ตัวเมืองพะอันมีแม่น้ำสาละวินไหลผ่าน บรรยากาศของตัวเมืองแม้จะดูคล้ายๆกับตัวอำเภอใหญ่ๆในหลายจังหวัดของบ้านเรา
       
       ใจกลางเมืองพะอันมีห้างสรรพสินค้า “Phoe La Min Shopping Mall” เป็นห้างใหญ่ห้างเดียวในเมือง บรรยากาศของห้างก็ดูคล้ายห้างเล็กๆตามต่างจังหวัดบ้านเรา แต่ก็เป็นห้างที่มีความคึกคักไม่น้อย ที่สำคัญคือสินค้าจำนวนมากภายในห้างเป็นสินค้าไทย ซึ่งแม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าสินค้าจีน แต่ว่าชาวพม่าเขาชอบสินค้าไทยกันมาก เนื่องจากมีคุณภาพดีกว่า ใช้แล้วคุ้มค่าคุ้มราคากว่า
       
       ผมลองเกินเข้าไปสำรวจที่ห้าง Phoe La Min เห็นสินค้าไทยบางยี่ห้อดูแปลกตา ผมไม่เคยเห็นในเมืองไทย แต่มีขายที่นี่แถมได้รับความนิยมเสียด้วย
       
       ขณะที่บนดาดฟ้าของห้างแห่งนี้(ต้องขออนุญาตขึ้นไป)ถือเป็นจุดชมวิวเมืองพะอันชั้นดี เมื่อขึ้นไปยืนมองลงมาจะเห็นวิวเมืองพะอันมุมสูงได้ทั้งฝั่งริมแม่น้ำและฝั่งตัวเมือง โดยเฉพาะฝั่งริมแม่น้ำนั้นถือเป็นมุมไฮไลท์เมื่อมองออกไปจะเห็นบรรดาอาคารบ้านเรือนต่างๆ โดยมีเจดีย์สีทองที่ดูคล้ายเจดีย์พุทธคยาตั้งเด่นเป็นสง่า จากนั้นถัดออกไปจะเป็นแม่น้ำสาละวินสายกว้างที่ไหลผ่านเมืองนี้ หลังแม่น้ำมีภูเขารูปร่างแปลกมียอดเป็นปล่องเป็นจุดเด่นดึงดูดสายตา ดูมีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ไม่น้อย

 
เปิดโลกรัฐกะเหรี่ยง เมียนมาร์ ที่“พะอัน”...มหัศจรรย์วัดเขาตะปูดูน่าทึ่ง/ปิ่น บุตรี
        จากเดินห้างเราไปเข้าวัดกันอีกที่ “วัดชเวยินเมียว”(Shwe Yin Myaw Pagoda) วัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสาละวิน ภายในวัดโดดเด่นไปด้วยเจดีย์สีทองที่ตรงส่วนฐานมีองค์พระมัยหามุนีจำลอง(องค์เล็ก)ให้สักการะบูชา
       
       นอกจากนี้ก็ยังมีเจดีย์สีทององค์เล็กที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ เพราะผู้ที่มาเยือนวัดแห่งนี้นอกจากจะมาไหว้เจดีย์ริมน้ำแล้ว ยังมาชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำสาละวินสายกว้างที่ไหลตีวงโค้งมาเฉียดยังที่วัดแห่งนี้ ฝั่งตรงข้ามมีไฮไลท์คือภูเขายอดปล่อง(ลูกเดียวกับที่เห็นบนดาดฟ้าห้าง) ในแม่น้ำมีเรือออกหาปลา เรือขนสินค้า เรือข้ามฟาก เรือดูดทราย และเรือเล็กที่จอดอยู่ริมน้ำพร้อมกับภาพวิถีชีวิตของชาวบ้านในละแวกนั้น ซึ่งภาพแบบนี้นับวันยิ่งมายิ่งเหลือน้อยในบ้านเรา
       
       3…

 
เปิดโลกรัฐกะเหรี่ยง เมียนมาร์ ที่“พะอัน”...มหัศจรรย์วัดเขาตะปูดูน่าทึ่ง/ปิ่น บุตรี
        พะอันเป็นเมืองที่มากไปด้วยภูเขาและถ้ำ(สันนิษฐานว่าเคยเป็นทะเลมาก่อน) ดังนั้นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเมืองจึงเป็นขุนเขาลักษณะประหลาดลูกหนึ่ง ซึ่งมีการสร้างวัด สร้างเจดีย์อยู่บนนั้น มีชื่อเรียกว่า “วัดเจ๊าตะแลต”(วัดก่อกะแลต)(Kyaukanlat) หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า“วัดเขาตะปู” หรือ “เจดีย์เขาตะปู”
       
       วัดเขาตะปูเป็นวัดที่สร้างบนภูเขาที่มีลักษณะคล้าย “เขาตาปู” ในอ่าวพังงาบ้านเรา คือเป็นภูเขาหินโดดๆกลางบึงน้ำขนาดใหญ่(บางคนเรียกทะเลสาบ) มีส่วนที่เป็นแท่งตั้งเด่นยื่นขึ้นมาคล้ายถ้วยไอศกรีม บนเขามีการสร้างวัด สร้างเจดีย์ อยู่ตามแนวชั้นเขาต่างๆ โดยส่วนบนยอดสุดเป็นเจดีย์สีทองอร่ามตั้งเด่น ขณะที่จากบนฝั่งริมบึงมีสะพานปูนสร้างทอดยาวจากฝั่ง(ริมบึง)ข้ามไปสู่ตัววัด
       
       เมื่อมาถึงที่วัดเขาตะปู ผมกับเพื่อนๆเดินข้ามสะพานไปแบบชิลล์ ชิลล์ไม่เร่งรีบ เพราะวิวทิวทัศน์ที่นี่สวยงามไม่เบา มองเห็นบึงขนาดใหญ่ มีวัดเขาตะปูที่ดูน่าทึ่งน่ามหัศจรรย์อยู่ตรงกลาง ให้เราเดินทางจากฝั่งไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ที่มีการสร้างเป็นบันไดใต้ยอดเขาตะปูให้เดินขึ้นไปกราบไหว้เจดีย์ ทำบุญ ฟังหลวงพ่อ(พระพม่า)ท่านให้ศีลให้พร และชมวิวทิวทัศน์บนนั้น โดยสามารถขึ้นไปได้แค่ชั้นที่สองเท่านั้น ส่วนชั้นที่สามที่เป็นชั้นยอดสูงสุด มีเจดีย์ทองตั้งเด่นอยู่ไม่สามารถขึ้นได้(เนื่องจากอันสตราย)

 
เปิดโลกรัฐกะเหรี่ยง เมียนมาร์ ที่“พะอัน”...มหัศจรรย์วัดเขาตะปูดูน่าทึ่ง/ปิ่น บุตรี
        สำหรับในวันที่ผมไปนั้น มีทั้งชาวพม่า ชาวมอญ ชาวกะเหรี่ยง ต่างพากันมาไหว้พระ ไหว้เจดีย์ และมาทำบุญที่วัดเขาตะปูกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเป็นวัยรุ่น หนุ่ม-สาว แสดงให้เห็นถึงศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวพม่าที่ยังคงแนบแน่นอยู่ไม่เสื่อมคลาย ช่วยเติมอรรถรส เติมความขลังของวัดเขาตะปูที่ถือเป็นดังสิ่งมหัศจรรย์(เล็กๆ)ของเมืองพะอันให้ดูน่าเลื่อมใสเปี่ยมศรัทธามากยิ่งขึ้นไปอีก
       
       และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของเมืองพะอัน เมืองหลวงแห่งรัฐกะเหรี่ยงที่กำลังโตวันโตคืน รับการเปลี่ยนแปลงทั้งการเปิด AEC และการเปิดประเทศที่มากยิ่งขึ้นของพม่า
       
       ขณะที่ส่วนตัวผมนั้น นี่ถือเป็นการเปิดโลกใหม่ เปิดประสบการณ์แปลกใหม่ อันน่าตื่นตาตื่นใจอีกครั้งหนึ่ง
 

 

 
กำลังแสดงหน้าที่ 1 จากทั้งหมด 0 หน้า [หน้าถัดไปคือหน้าที่ 2] 1
 

 
เงื่อนไขแสดงความคิดเห็น
1. ทุกท่านมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่กล่าวพาดพิง และไม่สร้างความแตกแยก
2. ผู้ดูแลระบบขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับคณะผู้จัดทำเว็บไซต์

ชื่อ :

อีเมล์ :

ความคิดเห็นของคุณ :
                                  

              * ใส่รหัสจากภาพที่เห็นลงในช่องด้านล่าง และใส่คำตอบจากคำถาม เพื่อยืนยันการส่งความเห็น
  และสำลีสีอะไร
    

          ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยสาธารณชน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อผู้เขียนที่้เห็นคือชื่อจริง และข้อความที่เห็นเป็นความจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ boyoty999@google.com  เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้