กฎหมายไทยถูกมองอย่างสบประมาทมาโดยตลอดว่าด้อยประสิทธิภาพ เมื่อเจอเข้ากับ ผู้มีอำนาจทางการเมือง- ผู้มีอิทธิพล หรือบรรดาเจ้าสัวใหญ่ แต่ในยุค "รัฐบาลทหาร" นักการเมืองน้อยใหญ่ พาเหรดกันเข้าคุก ฉายให้เห็นภาพของการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง "เครือเนชั่น" ทำการรวบรวมรายชื่อ "นักการเมือง" ที่ต้องโทษและถูกจองจำอยู่ในเรือนจำอยู่ในขณะนี้ มีดังนี้
1. จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย คนดังแห่งสภาหินอ่อน ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 5 ปี ฐานหมิ่นเบื้องสูง กรณีปราศรัยที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว เมื่อ 7 พ.ค. 57 แต่จำเลยรับสารภาพ ลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา และศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ส่งผลให้ "จ่าประสิทธิ์" ถูกส่งตัวเข้าคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2557
2 .พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต ส.ส.และอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา ในคดีหมิ่นประมาท วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ถูกส่งตัวเข้าคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 58 จะครบกำหนดโทษในเดือนก.ค. 59 นี้
3. เกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา จากกรณีีที่ร่วมแถลงข่าวกับนายพร้อมพงศ์ หมิ่นประมาท นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวหาว่า นายวสันต์ ให้ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์เข้าพบเป็นการส่วนตัวระหว่างที่มีการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้นายวสันต์ ซึ่งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้รับความเสื่อมเสีย ทั้งนี้นายเกียรติอุดม ถูกส่งเข้าคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 58 จะครบกำหนดโทษ ก.ค. 59 นี้
4 .ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม คนดังเมืองปากน้ำ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ถูกศาลฎีกาตัดสินลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ในคดีทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครปากน้ำ ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำกลางสมุทรปราการตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. 58 จะครบกำหนดโทษในเดือน ม.ค. ปี 60
โดยคดีนี้มูลเหตุเกิดจากการทุจริตเลือกตั้ง ปี 42 มีการนำบัตรที่ลงคะแนนไว้แล้ว หรือ "บัตรผี" นำไปเทใส่หีบบัตรลงคะแนน โดยมีผู้แอบถ่ายวิดีโอไว้ นำมาแฉต่อสื่อมวลชน
สำหรับนายชนม์สวัสดิ์ ก่อนหน้าที่จะถูกศาลตัดสินจำคุก ปรากฏชื่อเป็นหนึ่งในกลุ่มข้าราชการและนักการเมืองท้องถิ่น ที่ถูกสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2558 หลังมีปัญหาเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณอุดหนุนวัดใน จ.สมุทรปราการ มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
5. "กำนันเป๊าะ" สมชาย คุณปลื้ม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพัทยา ถูกพิพากษาจำคุกคดีทุจริตจัดซื้อที่ทิ้งขยะเขาไม้แก้ว และคดีจ้างวานฆ่ากำนันยููร รวมโทษจำคุก 30 ปี 4 เดือน แต่หลบหนีไปตั้งแต่ปี 49 จนกระทั่ง ปี 56 ถูกจับกุมบนถนนมอเตอร์เวย์ หลังจากเดินทางเข้ามาหาหมอที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการป่วยโรคเบาหวาน โดยกำนันเป๊าะจะครบกำหนดโทษตามคำพิพากษาในเดือน ก.ย.ปี 2578
แต่กรณีการจับกุมตัว "กำนันเป๊าะ" ซึ่งเกิดขึ้นใน "ยุครัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร " โดยมีนายสนธยา คุณปลื้ม บุตรชาย เป็นรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ส่งผลให้ กำนันเป๊าะ ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำไม่ทันข้ามวัน ก็ถูกย้ายมาทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เนื่องจากมีอาการป่วย หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน กำนันเป๊าะ ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ให้ย้ายตัวกลับไปคุมขังในเรือนจำตามภูมิลำเนา คือเรือนจำกลางชลบุรี โดย กำนันเป๊าะ ไม่เคยถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ
เนื่องจากผบ.เรือนจำกลางชลบุรี อนุญาตให้ส่งตัวกำนันเป๊าะไปควบคุมไว้ที่โรงพยาบาลจังหวัดชลบุรีตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.56 13 ต.ค. 58 รวมเป็นเวลา 2 ปี 9 เดือน ในยุคอธิบดีกรมราชทัณฑ์ยุค "รัฐบาลคสช. " จึงมีคำสั่งให้ย้ายตัวจากโรงพยาบาลชลบุรีมาควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากป่วยเรื้อรังหลายโรค
สำหรับคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินเขาไม้แก้ว เพื่อใช้เป็นที่ฝังกลบขยะของเมืองพัทยา จำนวน 140 ไร่ โดย นายพีระ ศิลรัตน์ ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของที่ดินจำนวน 150 ไร่ ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เสนอขายที่ดินจำนวน 140 ไร่ ให้เทศบาลเมืองพัทยาพิจารณา ในราคาไร่ละ 6 แสนบาทเศษ รวมเป็นเงิน 93 ล้านบาทเศษ
จากนั้นผู้ร้องเรียนว่าที่ดินผืนดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ กรมที่ดินเคยมีหนังสือเพิกถอนสิทธิแล้ว และยังพบหลักฐานว่า "พีระ ศิลรัตน์" ผู้ขายที่ดินเป็นคนสวนภายในบ้าน "กำนันเป๊าะ" ซื้อที่ดินมา ในราคาไร่ละ 50,000 บาท โดยที่ทั้งผู้ซื้อผู้ขายลงชื่อยอมรับเองว่าที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนฯ และนำมาขายในราคาแพงกว่าถึง 10 เท่า
สำหรับคดีจ้างวานฆ่า "กำนันยูร-ประยูร สิทธิโชติ" ผู้ทรงอิทธิพลร่วมเมืองชลบุรี ซึ่งทีมมือปืนเบิกความยืนยันว่าได้รับการติดต่อจากกำนันเป๊าะให้ฆ่า "กำนันยูร" จากเหตุความไม่พอใจกรณีลูกน้องคนสนิทถูกยิงเสียชีวิตก่อนหน้านี้ โดยศาลตัดสินจำคุก 25 ปี และให้นับรวมโทษจำคุกต่อจากคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินเขาไม้แก้ว ที่ "กำนันเป๊าะ" ถูกจำคุก 5 ปี 4 เดือน รวมเป็นจำคุก 30 ปี 4 เดือน
6. "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" อดีต ส.ส. พรรครักประเทศไทย ต้องโทษจำคุก 2 ปี ในคดีรื้อบาร์เบียร์ย่านสุขุมวิท ถูกส่งตัวเข้าคุมขังตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา จะครบกำหนดโทษ ในเดือน ม.ค. ปี 61
โดยคดีนี้เป็นข่าวครึกโครมในปี 46 เนื่องจากมีพฤติการณ์เข้าข่ายลักษณะองค์กรอาชญากรรม โดยกลุ่มคนมีสี "เสธหิ" พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ อดีตนายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และ"เสธ.แอ๊ป" พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร อดีตนายทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ได้นำรถแบ๊กโฮ พร้อมชายฉกรรจ์ 400 คน บุกรื้อบาร์เบียร์จนพังราบเป็นหน้ากลอง โดยนายชูวิทย์ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมจากปฏิเสธมาเป็นรับสารภาพตามฟ้องเพื่อขอให้ศาลลงโทษสถานเบา
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า หลังเกิดเหตุรื้อบาร์เบียร์ นายชูวิทย์ ได้บรรเทาความเสียหายชดใช้ให้ผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจแล้ว และได้นำที่ดินแปลงพิพาทไปทำประโยชน์ปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้ โดยไม่ได้นำที่ดินไปทำธุรกิจแสวงหาผลกำไรอีก ซึ่งบ่งบอกว่านายชูวิทย์ กับพวกสำนึกผิดที่ได้ทำลงไป นับว่ามีเหตุให้ปราณี จึงเห็นสมควรกำหนดโทษใหม่ให้เหมาะสม ลดโทษจากจำคุก 5 ปี เป็นจำคุก 2 ปี