ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์
Tokyo University of Foreign Studies
ในฐานะคนด้านการศึกษาคนหนึ่ง ผมคิดว่า ‘การสอนคน’ กับ ‘การสอนหนังสือ’ นั้นต่างกัน
การสอนคน คือ การสอนให้ผู้รับ ‘เป็นคนเต็มคน’ ทางความคิดและการปฏิบัติตนเพื่อให้เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม โดยมีคุณธรรมกำกับขณะที่เติบโตขึ้นและหาเลี้ยงชีพได้อย่างเป็นปกติสุขที่สุดตามอัตภาพ ในลักษณะที่ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นในสภาพรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรืออย่างจงใจ รวมทั้งจะต้องมีส่วนช่วยธำรงสังคมให้ยืนหยัดต่อไปทั้งทางตรงและทางอ้อม
ส่วนการสอนหนังสือ คือ การถ่ายทอดรหัสความรู้อันเป็นภาษากลางของคนในสังคมเพื่อสื่อและรับสารจากคนรอบตัวและสิ่งแวดล้อมให้เข้าใจตรงกัน หรือพูดง่ายๆ ในระดับพื้นฐานที่สุดคือการสอนให้อ่านออกเขียนได้ บวกลบคูณหารเป็น และต่อไปคือการประยุกต์ความรู้เพื่ออาชีพการงานอย่างเหมาะสม หรือถ้าในระดับสูงขึ้นไปก็คือการสอนในระดับปริญญาตรี โท เอก
‘การสอนคน’ ผ่านระบบโรงเรียนมักจะหยุดอยู่ในช่วงประถมวัยหรือเกินจากนั้นไม่เท่าไร ยิ่งในระดับมหาวิทยาลัยด้วยแล้ว อาจารย์แทบจะไม่สอนคน สอนแต่หนังสือ เมื่อผลผลิตที่ไม่ดีออกไปสู่สังคม สังคมจึงว่าว่าการศึกษาล้มเหลวเพราะไม่สามารถสอนคนให้มีจิตสำนึกที่ดีได้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือสอนคนให้เป็นคนจริงๆ ไม่ได้
ด้วยสภาพทั่วไปของการศึกษาและธรรมชาติของคน ผมคิดว่าการสอนคนจะได้ประสิทธิผลที่สุดเมื่อผู้รับอยู่ในวัยเด็ก จริงๆ แล้วจะเรียกว่าสอนก็ยังอาจจะเบาไป ต้องเรียกว่าปลูกฝัง ซึ่งครอบครัวและโรงเรียนต้องช่วยกันทุกทางตั้งแต่ผู้รับยังอยู่ในช่วงประถมวัย เพราะเมื่อโตขึ้นเรื่อยๆ จะเริ่มเกิดการแข่งขันทางการศึกษามากขึ้น และหน้าที่สอนคนของครูอาจารย์ก็จะผันไปเป็น ‘การสอนหนังสือ’ ตามสภาพสังคมที่บีบคั้น หรือบางทีครูอาจารย์อาจจะคิดว่า ‘โตแล้วไม่ต้องสอน’ หรือไม่ก็ ‘โตแล้วสอนยาก’ หรือไม่ก็ปัดไปเลยว่า ‘พ่อแม่สอนมาไม่ดี นี่ไม่ใช่หน้าที่ของครู’ หรืออะไรก็แล้วแต่
|