อย่าละเลย ! หมั่นสังเกต
นำเข้าเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2558 โดย จุฬา ศรีบุตตะ
อ่าน [58541]  

.....

 




 


http://www.matichon.co.th/online/2015/11/14475004611447500814l.jpg
 

ปกติคนเรามักจะมองข้ามความสำคัญของการสังเกตปัสสาวะ ทั้งที่จริงๆแล้วความผิดปกติของปัสสาวะนั้นสามารถบ่งบอกภาวะที่เกิดขึ้นกับร่างกายได้อีกมาก และเพื่อให้คุณสามารถรับมือปับปัสสาวะที่เปลี่ยนไปได้มากขึ้น เรามีวิธีตรวจเช็กปัสสาวะด้วยตัวเองมาแนะนำ



1.เช็กความถี่ของปัสสาวะ

ตามปกติในเวลากลางวันคนทั่วไปควรจะปัสสาวะประมาณ4-6ครั้งแต่หากน้อยกว่านั้นหรือไม่ปวดปัสสาวะเลย ก็อาจเป็นตัวชี้ว่าคุณกำลังเป็นโรคไตระยะเริ่มต้น รวมถึงโรคหัวใจ ซึ่งเกิดจากการที่เลือดไหลเวียนไปที่ไตไม่เพียงพอ หรืออาจเกิดจากการขาดน้ำอย่างมาก

ส่วนในเวลากลางคืน ควรจะปัสสาวะไม่เกิน 1 ครั้ง แต่หากตื่นมาปัสสาวะบ่อยอาจเป็นตัวแสดงการเกิดโรค เช่น การขาดฮอร์โมน Aldosterone รวมไปถึงการเกิดโรคเบาจืด


2.เช็กสีของปัสสาวะ

ในคนปกติ ปัสสาวะควรมีสีเหลืองอ่อนๆ แต่ก้มีโอกาสเปลี่ยนได้หลายสี เช่น ในกรณีการขาดน้ำ ปัสสาวะจะมีสีเข้มขึ้น หรือในกรณีที่ปัสสาวะมีสีอื่นก็สามารถบ่งบอกได้ถึงความผิดปกติได้ เช่น สีแดง หรือมีสีเลือดปนอาจหมายถึงการติดเชื้อบริเวณทางเดินปัสสาวะ หรือจากนิ่ว  สีเขียวหรือสีเหลืองปนส้ม อาจหมายถึงการเป็นโรคเลือดที่มีการแตกตัวของเม็ดเลือดแดงมาก  สีเหลืองปนเขียวอาจหมายถึงการเป็นโรคตับ  


3.กลิ่นของปัสสาวะ

กลิ่นปัสสาวะทั่วไป จะคล้ายกับกลิ่นของยูเรีย หรือแอมโมเนียจางๆ ซึ่งถือว่าเป็นกลิ่นเฉพาะตัว หากพบว่าปัสสาวะมีกลิ่นผิดปกติไป เช่นมีกลิ่นคล้ายเหม็นเน่า ก็เป็นไปได้ว่าอาจมีการติดเชื้อเกิดขึ้น 
อย่าละเลย ! ปัสสาวะทำนายโรคหากหมั่นสังเกต

ปกติคนเรามักจะมองข้ามความสำคัญของการสังเกตปัสสาวะ ทั้งที่จริงๆแล้วความผิดปกติของปัสสาวะนั้นสามารถบ่งบอกภาวะที่เกิดขึ้นกับร่างกายได้อีกมาก และเพื่อให้คุณสามารถรับมือปับปัสสาวะที่เปลี่ยนไปได้มากขึ้น เรามีวิธีตรวจเช็กปัสสาวะด้วยตัวเองมาแนะนำ


1.เช็กความถี่ของปัสสาวะ
ตามปกติในเวลากลางวันคนทั่วไปควรจะปัสสาวะประมาณ4-6ครั้งแต่หากน้อยกว่านั้นหรือไม่ปวดปัสสาวะเลย ก็อาจเป็นตัวชี้ว่าคุณกำลังเป็นโรคไตระยะเริ่มต้น รวมถึงโรคหัวใจ ซึ่งเกิดจากการที่เลือดไหลเวียนไปที่ไตไม่เพียงพอ หรืออาจเกิดจากการขาดน้ำอย่างมาก

ส่วนในเวลากลางคืน ควรจะปัสสาวะไม่เกิน 1 ครั้ง แต่หากตื่นมาปัสสาวะบ่อยอาจเป็นตัวแสดงการเกิดโรค เช่น การขาดฮอร์โมน Aldosterone รวมไปถึงการเกิดโรคเบาจืด


2.เช็กสีของปัสสาวะ
ในคนปกติ ปัสสาวะควรมีสีเหลืองอ่อนๆ แต่ก้มีโอกาสเปลี่ยนได้หลายสี เช่น ในกรณีการขาดน้ำ ปัสสาวะจะมีสีเข้มขึ้น หรือในกรณีที่ปัสสาวะมีสีอื่นก็สามารถบ่งบอกได้ถึงความผิดปกติได้ เช่น สีแดง หรือมีสีเลือดปนอาจหมายถึงการติดเชื้อบริเวณทางเดินปัสสาวะ หรือจากนิ่ว  สีเขียวหรือสีเหลืองปนส้ม อาจหมายถึงการเป็นโรคเลือดที่มีการแตกตัวของเม็ดเลือดแดงมาก  สีเหลืองปนเขียวอาจหมายถึงการเป็นโรคตับ 


3.กลิ่นของปัสสาวะ
กลิ่นปัสสาวะทั่วไป จะคล้ายกับกลิ่นของยูเรีย หรือแอมโมเนียจางๆ ซึ่งถือว่าเป็นกลิ่นเฉพาะตัว หากพบว่าปัสสาวะมีกลิ่นผิดปกติไป เช่นมีกลิ่นคล้ายเหม็นเน่า ก็เป็นไปได้ว่าอาจมีการติดเชื้อเกิดขึ้น  
 

 

 
กำลังแสดงหน้าที่ 1 จากทั้งหมด 0 หน้า [หน้าถัดไปคือหน้าที่ 2] 1
 

 
เงื่อนไขแสดงความคิดเห็น
1. ทุกท่านมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่กล่าวพาดพิง และไม่สร้างความแตกแยก
2. ผู้ดูแลระบบขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับคณะผู้จัดทำเว็บไซต์

ชื่อ :

อีเมล์ :

ความคิดเห็นของคุณ :
                                  

              * ใส่รหัสจากภาพที่เห็นลงในช่องด้านล่าง และใส่คำตอบจากคำถาม เพื่อยืนยันการส่งความเห็น
  และสำลีสีอะไร
    

          ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยสาธารณชน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อผู้เขียนที่้เห็นคือชื่อจริง และข้อความที่เห็นเป็นความจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ boyoty999@google.com  เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้