หลายคนเลือกสถานที่จะไปศึกษาต่อยังต่างประเทศจาก ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ค่าครองชีพ ค่าเทอม จัดอันดับกันมาแล้วมากมายหลายสถาบัน แต่มันจะดีแค่ไหนถ้ามหาวิทยาลัยที่เราจะเลือกไปศึกษาต่อ ทำให้เราได้ใช้ชีวิตแบบเจ๋งๆ ด้วยกิจกรรมรอบๆ เมือง และบรรยากาศรอบมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ไนท์ไลฟ์ หรือแนวรักธรรมชาติ เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้การใช้ชีวิตในต่างแดนของเราสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น วันนี้ Life on campus ขอนำเสนอ 10 สถานที่สวยๆ บรรยากาศดีๆ ที่คนทั่วโลกโหวตว่าน่าไปเรียนต่อมากๆ จากการจัดอันดับของเวปไซด์เพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศ “Study aboard 101” เพราะนอกจากชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยแล้วสภาพแวดล้อมรอบๆ มหาวิทยาลัยก็สำคัญไม่แพ้กัน
1. มหาวิทยาลัยบอนด์ (Bond University) : เมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย
|
เมืองโกลด์โคสต์ (Gold Coast) ของประเทศออสเตรเลีย ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีชายหาดสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง จนได้รับการขนานนามว่า “Surfers Paradise” สวรรค์ของนักโต้คลื่น ไม่เพียงชายหาดที่สวยงาม เมืองโกลด์โคสต์แห่งนี้ยังเป็นจุดกำเนิดของ “บิกินี” บนชายหาดสีทองไกลสุดลูกหูลูกตา นอกจากชื่อเสียงในด้านวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว เมืองโกลด์โคลส์ยังเป็นเมืองที่ทันสมัย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย
มหาวิทยาลัยบอนด์ (Bond University) ตั้งอยู่ในวิทยาเขตที่สวยงามของเมืองโกลด์โคลด์โคสต์ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศออสเตรเลีย ล้อมรอบไปด้วยชาดหาด คนที่สนใจอยากไปเรียนต่อสามารถพบกับชีวิตหลากหลายแบบได้ที่นี่ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักสงบชอบอยู่กับธรรมชาติ หรือมีไลฟ์สไตล์แบบคนเมืองชอบความหรูหราและแสงสียามราตรี บอกได้เลยว่า ชีวิตในมหาวิทยาลัยบอนด์ ที่เมืองโกลด์โคสต์ แห่งนี้ตอบโจทย์ของคุณได้เป็นอย่างดี
|
ทำไมคุณต้องเลือกที่นี่? : มหาวิทยาลัยที่ล้อมรอบไปด้วยชาดหาดที่มีชื่อเสียง และจิงโจ้ที่ผู้คนจากทั่วโลกอยากมาสัมผัส
สิ่งที่ต้องทำถ้ามาศึกษาต่อที่นี่ : ขึ้นรถบัสไปที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเคอร์รัมบิน (Currumbin Wildlife Sanctuary) ตั้งอยู่เขตชานเมืองโกลด์โคสต์ เพื่อไปกอดกับจิงโจ้ที่ผู้คนจากทั่วโลกใฝ่ฝันหา
คะแนนจาก Abroad101 : มหาวิทยาลัยบอนด์ ได้ 5/5 คะแนน
2. มหาวิทยาลัยเคโอ (Keio University) : กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
|
หากใครเคยเห็นแบงค์หมื่นเยนของประเทศญี่ปุ่น จะเห็นชายคนหนึ่งที่ปรากฎอยู่นั่นก็คือ “ฟุคุซาวะ ยูคิชิ (Fukuzawa Yukichi)” บิดาแห่งวิทยาการสมัยใหม่ของญี่ปุ่น และเป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเคโอ (Keio University) ซึ่งปัจจุบันมหาวิทยาลัยแห่งนี้กลายมาเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ และยังตั้งอยู่ที่เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น อย่างกรุงโตเกียว ที่ใครๆ ก็ต่างใฝ่ฝันอยากจะไปเยือนเมืองแห่งแฟชั่น และสุดยอดเทคโนโลยีแห่งเอเชียแห่งนี้
นอกจากจะเป็นเมืองหลวงของประเทศแล้ว กรุงโตเกียวยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย และยังเป็นเมืองที่มีความคึกคักตลอดเวลา เพราะเต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง และตลาดการค้าการลงทุนขนาดใหญ่ นอกจากนั้นยังเป็นศูนย์รวมแหล่งศิลปะและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม ผู้คนมีมนุษยธรรมและมีการผสมผสานความแตกต่างได้อย่างน่าอัศจรรย์ ที่สำคัญกรุงโตเกียวแห่งนี้ยังเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอีกด้วย มีอาชญากรรมน้อยมาก ถ้ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น คนญี่ปุ่นก็พร้อมที่จะช่วยคุณทันที น่าอยู่และปลอดภัยอย่างนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว
|
ทำไมคุณต้องเลือกที่นี่? : ที่มหาวิทยาลัยเคโอจะมีงาน “Ecology Week” ที่จัดขึ้นในเดือนมิถุนายมของทุกปี เป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยอาจารย์และนักเรียนจะร่วมกันคิดค้นและดำเนินการเกี่ยวกับการอนุรักษณ์สภาพแวดล้อม
สิ่งที่ต้องทำถ้ามาศึกษาต่อที่นี่ : ใช้เวลาว่างสบายๆ ด้วยการนอนแช่น้ำพุร้อนออนเซ็นที่ Niwa no Yu พร้อมอ่างจากุซซีกลางแจ้ง ที่คุณต้องลอง
คะแนนจาก Abroad101 : มหาวิทยาลัยเคโอได้ 5/5 คะแนน
3. มหาวิทยาลัยกรานาดา (University of Granada) : ประเทศสเปน
|
เออร์เนสต์ เฮมมิงเวย์ (Ernest Hemingway) นักประพันธ์ชื่อดังชาวอเมริกันเคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณได้ไปเยี่ยมชมเพียงหนึ่งเมืองในประเทศสเปน คุณควรเลือกไปที่กรานาดา” เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวหลายคนยังไม่รู้ มีความสวยงามและโดดเด่น จากสถาปัตยกรรมป้อมปราการ และพระราชวังที่อนุรักษ์ไว้ เป็นเมืองที่มีคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมอันหลากหลาย รวมถึงแหล่งชอปปิ้งมากมาย ในย่านสตรีทมาร์เก็ต (Street Markets) หรือ Flea Market ต้องถูกใจขาชอปอย่างแน่นอน ยังไม่นับรวมแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีที่จะช่วยขับเคลื่อนชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของคุณให้สดใสซาบซ่าอีกมากมาย
|
ทำไมคุณต้องเลือกที่นี่? : แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ ที่คุณสามารถเดินชมไปรอบๆ แต่ก็ถือว่าไม่เล็กเกินไป แถมยังมีฟรีคอนเสิร์ตฟลาเมงโกให้ชมกันตลอด แค่นี้ก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว!!!
สิ่งที่ต้องทำถ้ามาศึกษาต่อที่นี่ : ต้องไปเยี่ยมชม พระราชวังลา อัลลัมบร้า (La Alhambra) พระราชวังและป้อมปราการสไตล์แขกมัวร์ ที่มีความโดดเด่นมากจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
คะแนนจาก Abroad101 : มหาวิทยาลัยกรานาดาได้ 4.9/5 คะแนน
4. มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น (Fudan University) : เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
|
มหาวิทยาลัยฟู่ตั้นเปรียบเสมือนมหาวิทยาลัยปักกิ่งทางตอนใต้ของประเทศจีน มีชื่อเสียงและมาตรฐานทางการศึกษาอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ รวมถึงสถานที่ตั้งของมหาวิทยาลัยยังตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ ถือเป็นทำเลที่ดีมาก ที่สำคัญบรรยากาศของมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม จึงทำให้มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น กลายเป็นมหาวิทยาลัยที่นักศึกษาชาวต่างชาติให้ความสนใจ
มหานครเซี่ยงไฮ้ ที่ได้รับการขนาดนามว่าเป็น “นครปารีสแห่งตะวันออก” ติดอันดับ 5 มหานครไฮโซของโลก เต็มไปด้วยความเจริญและความทันสมัยในด้านต่างๆ มากมาย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งชอปปิ้ง ที่สำคัญตอนนี้ประเทศจีนกำลังพัฒนาในด้านการศึกษาอย่างจริงจัง จนในวันนี้ระบบการศึกษาของเซี่ยงไฮ้ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลก โดยระบบการศึกษาได้ถูกออกแบบมาให้นักเรียน นักศึกษาต่างชาติสามารถเข้ามาอยู่ในระบบได้อย่างกลมกลืน
|
ทำไมคุณต้องเลือกที่นี่? : คุณจะเป็นอีกหนึ่งคนที่ได้มายืนอยู่ใจกลางหัวใจของนครเซี่ยงไฮ้ เมืองที่เติบโตเร็วที่สุด และมีความโดดเด่นในเรื่องธุรกิจแฟชั่นอีกเมืองหนึ่งของโลก
สิ่งที่ต้องทำถ้ามาศึกษาต่อที่นี่ : พลาดไม่ได้กับการไปล่องเรือที่แม่น้ำหวงผู่ ชมแสงสีของมหานครเซี่ยงไฮ้ยามค่ำคืนกันอย่างเต็มตา
คะแนนจาก Abroad101 : มหาวิทยาลัยฟู่ตั้นได้ 4.9/5 คะแนน
5. วิทยาลัยอเมริกันดับลิน (American College Dublin) : ประเทศไอร์แลนด์
|
เมืองดับลิน (Dublin) จัดเป็นหนึ่งในสิบเมืองยุโรปที่คุณไม่ควรพลาด เมืองหลวงของประเทศไอร์แลนด์ที่ไม่เพียงติดอันดับเมืองน่าเที่ยว แต่ยังติดอันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกอีกด้วย แม้ว่าเมืองดับลินจะไม่ได้เป็นเมืองที่สวยบาดตาบาดใจในแรกเห็น ต้องใช้เวลาค่อยมองและซึมซับบรรยากาศโดยรอบ แล้วคุณจะรู้ว่าเมืองแห่งนี้มีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก เริ่มจากการผสมผสานระหว่างความงดงามจากธรรมชาติและความทันสมัยอย่างเมืองยุโรปได้อย่างลงตัว
วิทยาลัยอเมริกันดับลินแห่งนี้ ก็ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และล้อมรอบไปด้วยโรงละคร พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร แกลเลอรี่ และแน่นอนผับบาร์ เหมาะกับนักศึกษาที่ชอบแสง สี เสียง ยามราตรี เพิ่มสีสันให้กับชีวิตวัยรุ่น และนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีแล้ว เมืองดับลินยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมที่งามสง่า ตลอดจนแหล่งชอปปิ้ง และภัตตาคารชั้นเลิศของประเทศก็อยู่รอบๆ วิทยาลัยอเมริกันดับลินด้วยเช่นกัน
|
ทำไมคุณต้องเลือกที่นี่? : The American College Dublin เป็นวิทยาลัยที่อยู่ในอันดับที่ 7 ของโลก จากสถาบันการศึกษาต่อต่างประเทศ
สิ่งที่ต้องทำถ้ามาศึกษาต่อที่นี่ : ออกไปเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่กับ “Gaelic Games" กีฬาที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวไอริสที่คุณไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อน มีทั้ง Gaelic football และ Gaelic handball
คะแนนจาก Abroad101 : วิทยาลัยอเมริกันดับลินได้ 4.8/5 คะแนน
6. มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค ที่เบอร์ลิน : ประเทศเยอรมนี
|
กรุงเบอร์ลิน เป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมนีในปัจจุบัน ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Silicon Valley of Europe” เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เพราะหากกล่าวคำว่า “เบอร์ลิน” หลายคนจะต้องนึกถึง “กำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall)" สัญญลักษณ์แห่งสงครามและได้แบ่งแยกเยอรมนีออกเป็นสองส่วน การได้ไปเที่ยวรอบๆ เมืองเบอร์ลินถือเป็นการได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์นอกห้องเรียนอีกแบบหนึ่ง เพราะในตัวเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม ความงดงาม และประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศเยอรมันแห่งนี้
มหานครแห่งนี้เป็นบ้านของมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย การแข่งขันกีฬา ออร์เคสตรา พิพิธภัณฑ์ และบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกจำนวนมาก ด้วยความสวยงามของเมืองเบอร์ลินมักนิยมใช้เป็นฉากสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ทางประวัติศาสตร์หลายเรื่องด้วยกัน คิดดูว่าบรรยากาศรอบๆ เมืองจะสวยงามและคลาสสิคขนาดไหน
|
ทำไมคุณต้องเลือกที่นี่? : ทริปทัศนะศึกษารอบๆ กรุงเบอร์ลิน จะถูกบรรจุอยู่ในโปรแกรมการศึกษา คุณจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของประเทศเยอรมันอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว
สิ่งที่ต้องทำถ้ามาศึกษาต่อที่นี่ : ต้องไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมชมอีสท์ไซด์แกลลอรี (Eastside Gallery) ห้องแสดงภาพวาดกลางแจ้งที่ใหญ่และคงทนที่สุดในโลก ภาพวาดของศิลปินชื่อดังจากทั่วโลกบนกำแพงเบอร์ลิน
คะแนนจาก Abroad101 : มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค ที่เบอร์ลิน 4.7/5 คะแนน
7. มหาวิทยาลัยเคปทาวน์ : ประเทศแอฟริกาใต้
|
ถ้าพูดถึงมหาวิทยาลัยเคปทาวน์เรื่องความสวยนั้นไม่เป็นรองใคร เพราะมีการการันตีด้วยอันดับโลกมาแล้วหลายสมัย นอกจากสวยแล้วยังเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในแอฟริกาใต้อีกด้วย ตั้งอยู่ในเมืองเคปทาวน์ “Cape Town” เมืองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 300 ปี และยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดในโลก ถูกโอบล้อมด้วยมหาสมุทรอินเดียและแอตแลนติก มีภูเขาเทเบิ้ล (Table Mountain) เป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง ด้านหน้าติดทะเล ด้านหลังติดภูเขา เข้าตำราลักษณะที่ดีตามฮวงจุ้ยของชาวจีน อุณภูมิตลอดปีเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 17 องศาเซลเซียส นอกจากความสวยงามในเรื่องที่ตั้งและบรรยากาศอันแสนดีของเมืองแล้ว เมืองเคปทาวน์ยังเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปแอฟริกาอีกด้วย
|
ทำไมคุณต้องเลือกที่นี่? : มหาวิทยาลัยเคปทาวน์ได้สร้างความร่วมมือกับสถาบันทั้งในและต่างประเทศหลายแห่ง เพื่อแลกเปลี่ยน และเพิ่มเติมทางวิชาการ เพื่อความหลากหลายทางวัฒนธรรมในมหาวิทยาลัย
สิ่งที่ต้องทำถ้ามาศึกษาต่อที่นี่ : ต้องไปที่สวนพฤกษชาติ "Kirstenbosch Botanical Garden" ในเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ หนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกที่คุณไม่ควรพลาด
คะแนนจาก Abroad101 : มหาวิทยาลัยเคปทาวน์ ได้ 4.7/5 คะแนน
8. สถาบันโลเรนโซ เด เมดีชี (LDM) : ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
|
โลเรนโซ เด เมดีชี (Lorenzo de’ Medici) เป็นสถาบันระหว่างประเทศอิตาลี ที่สอนหลักสูตรเกี่ยวกับการออกแบบและงานศิลปะในแขนงต่างๆ กว่า 400 หลักสูตร ภายใต้ 4 วิชาหลัก คือ ศิลปะและวิทยาศาสตร์, ศิลปะ, ภาษาและวัฒนธรรมของอิตาเลียน และการออกแบบ ที่ตั้งของสถาบันสวยงามอย่าบอกใคร ล้อมรอบไปด้วยภูเขามากมาย ถ้าอยากจะศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่เมืองนี้ต้องไม่พลาดชม สะพานเวคคิโอ, ปาลาซโซ เวคคิโอ และฟลอเรนซ์ ดูโอโม
นอกจากเมืองฟลอเรนซ์จะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอิตาลีแล้ว ยังมีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ศาสนา วัฒนธรรม และเมื่อปี ค.ศ. 1982 ใจกลางเมืองเก่าของเมืองฟลอเรนซ์ได้รับเลือกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (Unesco) เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของเรอเนสซองส์ ที่ได้เติบโตขึ้นเป็นอิทธิพลทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมภายใต้การปกครองของตระกูลเมดิชี (Medici) ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 -16 นั่นเอง
|
ทำไมคุณต้องเลือกที่นี่? : ฟลอเรนซ์เป็นแหล่งกำเนินของอารยธรรมยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา สถานที่อย่าง Dante,
Brunelleschi, Botticelli, Leonardo da Vinci, Machiavelli, และ Galileo สามารถทำให้เราเปลี่ยนความคิดในการมองโลกได้เสมอๆ เพราะได้รับแรงบันดาลใจ
สิ่งที่ต้องทำถ้ามาศึกษาต่อที่นี่ : ถ้าอยากเห็นเมืองฟลอเรนซ์แบบพาโนราม่าต้องไปที่ "Piazzale Michelangelo" แล้วคุณจะไม่เสียใจ
คะแนนจาก Abroad101 : สถาบันโลเรนโซ เด เมดีชี (LDM) ได้ 4.7/5 คะแนน
9. มหาวิทยาลัยเวอริทัส : กรุงซานโฮเซ ประเทศคอสตาริกา
|
มหาวิทยาลัยเวอริทัส (Universidad VERITAS) เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงอย่างมากในคอสตาริกา สำหรับใช้เป็นพื้นในการศึกษาเกี่ยวกับศิลปะ, การออกแบบ และสถาปัตยกรรม หลักสูตรที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการเลือกเรียนทางด้านศิลปะและการออกแบบ พร้อมอยู่ท่ามกลางเมืองหลวงอันคึกคักของประเทศคอสตาริกา อย่างกรุงซานโฮเซ (San José) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่เราอยากแนะนำอีกตัวเลือกหนึ่ง แต่ที่นี่คนส่วนใหญ่จะใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ เพราะคอสตาริกาเคยตกเป็นเมืองขึ้นของสเปนมาก่อนนั่นเอง
ที่กรุงซานโฮเซแห่งนี้คุณจะมองเห็นคฤหาสน์สมัยวิคตอเรียเต็มไปหมด สร้างโดยเหล่าเศรษฐีกาแฟที่ค้าขายกาแฟจนมั่งคั่งร่ำรวยถึงขนาดสร้างคฤหาสน์ได้เลยทีเดียว ซึ่งนอกจากคฤหาสน์แล้วก็จะเห็นไร่กาแฟเต็มไปหมด เท่านั้นยังไม่พอที่นี่ยังมีไนท์ไลฟ์และกิจกรรมยามค่ำคืนมากมายที่จะไม่ทำให้ชีวิตวัยรุ่นในช่วงมหาวิทยาลัยของคุณน่าเบื่ออย่างแน่นอน
|
ทำไมคุณต้องเลือกที่นี่? : ภูเขาไฟ 3 ลูกที่อยู่รอบๆ กรุงซาโฮเซ พร้อมกับหมู่บ้านที่แปลกตา เต็มไปด้วยฟาร์มและไร่กาแฟ กำลังรอคุณอยู่
สิ่งที่ต้องทำถ้ามาศึกษาต่อที่นี่ : เยี่ยมชมน้ำตกลาปาส (La Paz Waterfall Gardens) และสัมผัสกับหมอกที่ตกลงสู่ผิวคุณได้ที่นี่
คะแนนจาก Abroad101 : มหาวิทยาลัยเวอริทัส ได้ 4.6/5 คะแนน
10. คิงส์คอลเลจ : กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
|
King’s College London เป็น 1 ใน 30 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก และเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 4 ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงลอนดอน มหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในเมืองที่ชื่อเสียงที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง ที่ใครๆ ก็อยากมาเยือน นอกจากชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยแล้ว กรุงลอนดอนยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่เจิรญที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง เป็นศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ ผู้นำด้านการเงิน เทคโนโลยี การเมือง การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น ศิลปะ และประวัติศาสตร์ของโลก ชื่อเสียงเรื่องการท่องเที่ยวก็ไม่แพ้ใคร มหานครที่ไม่เคยหลับใหลเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความหลากหลาย แม้จะขึ้นชื่อว่า เมื่องที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ก็ตาม แต่ผู้คนก็ไม่ย่อท้อที่จะมาเยือนและชื่นชมกับบรรยากาศของเมืองผู้ดีแห่งนี้
|
ทำไมคุณต้องเลือกที่นี่? : คุณจะใช้เวลาในการเข้าคลาสเรียนเพียง 8-9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่วนที่เหลือคือการเรียนรู้แบบอิสระที่ให้คุณออกไปเรียนรู้ชีวิตในโลกภายนอกนั่นเอง
สิ่งที่ต้องทำถ้ามาศึกษาต่อที่นี่ : ใช้เวลาเดินเพียง 20 นาทีจากมหาวิทยาลัย เพื่อไป “หอศิลป์แห่งชาติ (National Gallery)" เพื่อชมผลงานมาสเตอร์พีชของศิลปินชื่อดังกว่า 2,300 ชิ้น ฟรี
คะแนนจาก Abroad101 : คิงส์คอลเลจลอนดอน ได้ 4.6/5 คะแนน
ที่มา : http://www.buzzfeed.com/laraparker/the-best-places-to-study-abroad
ภาพประกอบจาก : Internet
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ : campus.mgr2014@gmail.com
|