หลายท่านอาจเข้าใจผิดว่า คำใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม หรือคำศัพท์วัยรุ่น เช่น จุงเบย ฝุดฝุด ไฟว้ ฟิน ฯลฯ จะมีการนำมาบรรจุลงในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน...
นายอุดม วโรตม์สิกขดิตถ์ อุปนายกราชบัณฑิตยสถาน ได้ระบุถึงภาษา หรือคำใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมว่า ไม่สามารถนำมาบรรจุลงในพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถานได้ในทันที เนื่องจากศัพท์วัยรุ่นใช้ตัวสะกด สระ วรรณยุกต์ และการออกเสียงไม่ถูกหลักภาษาไทย แต่คำเหล่านี้จะถูกนำมาเก็บรวบรวมไว้ในฐานข้อมูลแทน เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลในการค้นคว้า และให้เกิดความเข้าใจความหมายของคำและภาษาในแต่ละยุคสมัย หากระยะเวลาผ่านไป คำนั้นๆ ยังอยู่ในสังคม และเป็นคำที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้อย่างต่อเนื่อง จึงจะนำมาพิจารณาเพื่อบรรจุลงในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานในภายหลัง
"ถ้าอีกสิบปี หรืออีกระยะหนึ่ง เค้าจุงเบย กันทั้งบ้านทั้งเมือง อาจจะกลับเข้ามาอยู่และพิจารณา เราจะเก็บสิ่งที่ปรากฏในสื่อในสิ่งพิมพ์ทั้งหลายแหล่ เขาใช้ยังไง ใช้เมื่อไหร่ นั่นคือฐานข้อมูลที่เราจะเก็บจะเก็บทั้งตัวเขียนทั้งคำพูด เพื่อเอามาใช้ประโยชน์ในการคัดกรอง สมควรไหมว่ามันจะมีชีวิตยืนยาวอยู่ ควรจะเก็บเข้าในพจนานุกรมหรือไม่" นายอุดม กล่าว
คำใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่เรามักได้ยินจนติดหู ส่วนใหญ่เป็นการดัดแปลงจากภาษาเขียนและออกเสียงให้ผิดเพี้ยนไป หรือมีบางคำที่มาจากภาษาอังกฤษ โดย น.ส.พัชรญา จิตคาม อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี มีความเห็นว่า การเกิดคำเหล่านี้ เป็นการพัฒนาของภาษา และเป็นเพียงการพูดเล่นกันในกลุ่มเพื่อนและสังคมออนไลน์ เพียงแค่ต้องรู้จักใช้ให้เหมาะสมและถูกกาลเทศะ
"คำใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ถ้าถามว่ามันดีไหม มันก็ดีในการสนทนากับเพื่อนๆ มันจะได้อารมณ์ ได้ความรู้สึกที่สนุกสนามมากขึ้น เพราะยุดสมัยมันเปลี่ยนไป มันก็จะมีทัศนคติใหม่ๆ เกิดขึ้นมา หนูว่ามันก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วแต่ยุคสมัย บางท่านก็อาจเห็นว่ามันเป็นการทำลายภาษา แต่หนูว่าสุดท้ายถ้าเราใช้อย่างมีสติ และรู้ว่าคำดั้งเดิมมาจากอะไร ก็ไม่น่าจะส่งผลเสียอะไรมากมาย" น.ส.พัชรญา กล่าว
ขณะเดียวกัน นายนาวี ยั่งยืน ผู้อำนวยการโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ได้กล่าวถึงมุมมองของคุณครูที่ใกล้ชิดกับนักเรียน เกี่ยวกับพฤติกรรมและปัจจัยที่ทำให้เด็กมีคำใหม่ๆ มาพูดคุยกันจนนิยมแพร่หลายในสังคม
"ปัจจุบันวัยรุ่น หรือคนไทย นิยมฟังนิยมดู มากกว่าพูดและคิด เพราะฉะนั้น การค้นหาความรู้ การใช้สังคมออนไลน์มีบทบาทเยอะมาก ซึ่งจริงๆ เราต้องสร้างความเข้าใจกับเขา ตอนนี้สังคมวัยรุ่น สังคมเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม เขามีกลุ่มเพื่อนเป็นกลุ่มๆ และติดต่อกันเป็นกลุ่ม การใช้ถ้อยคำอะไรต่างๆ ก็จะใช้คำแปลกๆ สั้นๆ สมัยก่อนเราเรียกคำแสลง แต่คำแสลงสมัยใหม่นี้ มันไปแรง ไปเร็ว และกว้างขวางมาก สิ่งเหล่านี้เราควรสร้างความเข้าใจให้กัน"
เมื่อปี 2554 ได้ทำการรวบรวมคำไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานครั้งล่าสุด จากเดิมที่อยู่ประมาณ 37,000 คำ ได้บรรจุคำใหม่ๆ เข้าไปอีกกว่า 1,000 คำ เช่น แกล้งดิน แก้มลิง กังหันชัยพัฒนา เป็นต้น และภาษาปากอย่างคำว่า เด็ดสะระตี่ ขี้ตู่
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการนำคำใหม่มาบรรจุลงในฐานข้อมูล เพื่อให้มีความหมายที่ชัดเจน คนฟังและคนอ่านเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่หากเรายังใช้คำเหล่านี้อย่างไม่เหมาะสม ใช้จนเคยชิน จะเป็นการผลักดันให้เกิดคำใหม่ หรือความหมายใหม่ของคำที่มีอยู่เดิม จนส่งผลให้ภาษาไทย ซึ่งเป็นภาษาประจำชาติ ถูกกลืนหายไป และเยาวชนรุ่นหลังไม่อาจเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำนั้น.
ชมคลิป