เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด นายธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวในการเสวนาเรื่อง "องค์กรครู : องค์กรเพื่อการพัฒนาครูและการศึกษาของชาติจริงหรือ" จัดโดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ว่าเรื่องที่กระทบขวัญและกำลังใจของครูคือ การบริหารงานบุคคล โดยมีเรื่องร้องเรียนไปที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และศาลปกครอง อีกทั้งการประชุมครั้งที่ผ่านมามีผู้ร้องว่าการบริหารงานบุคคลไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล มีการเรียกเงินเรียกทอง เพราะช่วงเลือกตั้งผู้แทนครูในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา มีการจ่ายเงินจ่ายทองกัน อย่างไรก็ตาม สกศ.ยังไม่มีธงว่าจะแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่
นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ อดีตรองเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า การบริหารโดยคณะกรรมการ เป็นการบริหารแบบมีส่วนร่วม และการกระจายอำนาจ โดยให้ผู้มีส่วนได้เสียร่วมกำหนดนโยบาย ซึ่งองค์กรครูมีส่วนสร้างความเข้มแข็ง เพราะมีเครือข่ายเชิงวิชาการ เครือข่ายเรียกร้องความเป็นธรรม สวัสดิการ และสวัสดิภาพ แต่มีผู้ตั้งข้อสังเกตการเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ.เขตฯ ว่ามีการเมืองเกี่ยวข้อง อีกทั้งคนไทยยังไม่ชินกับการบริหารแบบกรรมการ เพราะเคยชินกับการที่ผู้อำนวยการเป็นใหญ่ หน้าที่ของกรรมการคือควบคุมกำกับการดำเนินการงานของหน่วยปฏิบัติ อำนวยความสะดวกให้หน่วยปฏิบัติเป็นพี่เลี้ยง และกำกับติดตาม ฉะนั้น ถ้าองค์กรครูเข้มแข็ง จะช่วยผลักดันให้มีการป้องกันและลงโทษคนที่ทำให้เกิดความเสียหาย
นายสุวัฒน์ เงินฉ่ำ กรรมการสภาการศึกษา กล่าวว่า อ.ก.ค.ศ.เขตฯชุดปัจจุบันจะหมดวาระในวันที่ 19 มิถุนายน จึงต้องรณรงค์ให้เลือกผู้แทนที่ดีเข้ามา ที่ผ่านมาได้ยินว่าถ้าจะให้ผ่านแบบไม่มีเงื่อนไขต้องจ่าย 3 แสนบาท ถ้าผ่านแบบมีเงื่อนไขจ่าย 1.5 แสนบาท และหากเป็นการโยกย้ายจะคิดตามระยะทางเป็นกิโลเมตร ดังนั้น ฉะนั้นการจะเลือกผู้แทนครูเข้าไปจึงต้องเลือกคนดี คนที่จะเอื้อต่อวิชาชีพครู ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารงานการปฏิรูปการศึกษา (สปศ.) ซึ่งตนเป็นกรรมการอยู่ด้วย ไม่เคยเสนอให้ใช้วิธีเลือกตั้งผู้แทนครู แต่เพราะการเมืองยุคนั้นอ่อนแอ องค์กรครูเข้าไปอยู่ในคณะกรรมาธิการและเข้าไปเปลี่ยนรูปแบบเพราะเคยชินกับรูปแบบนั้น
นายวิทยา อินาลา ส.ว.นครพนม กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ไม่พอ แต่ต้องปฏิวัติ โดยต้องพัฒนาให้เป็นสังคมอุดมศาสนปัญญา คนที่จะเข้ามาเป็นผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และ อ.ก.ค.ศ.เขตฯ เพราะอยากได้อำนาจ อิทธิพล จึงสร้างแรงจูงใจให้สมาชิกครู ดังนั้น จะทำอย่างไรให้ได้ผู้ที่มีคุณธรรมจริยธรรม มีความรับผิดชอบ และทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเปิดให้อภิปรายทั่วไป มีผู้แทนครูลุกขึ้นอภิปราย เช่น นายคจิตร พงษ์คำพันธ์ โรงเรียนบ้านทุ่งน้อยหนองโจดหนองหอย สพท.ขอนแก่น เขต 3 กล่าวว่า ตนเป็น อ.ก.ค.ศ.เขตฯที่ไม่ได้มาจากการซื้อเสียง ที่มีคนพูดว่าซื้อกันกิโลเมตรละ 500 บาท นั้นไม่ควรพูด เพราะคนดียังมี ตนเชื่อว่าการมาโดยการเลือกตั้งเป็นแบบอย่างของการปกครองของประเทศ ฉะนั้น อะไรที่ไม่ดีไม่อยากให้อ้างว่าเพราะ อ.ก.ค.ศ.เขตฯไม่ดี
นายสนอง ชารมาตย์ โรงเรียนบ้านดงหนองจอกร้อยเอ็ด เขต 2 กล่าวว่า ผู้แทนครูใน อ.ก.ค.ศ.เขตฯที่มาจากการเลือกตั้งมีน้อยกว่าสัดส่วนผู้บริหารโดยตำแหน่ง และผู้ทรงคุณวุฒิ ตนเห็นว่าผู้แทนที่มาจากเลือกตั้งต้องเท่ากัน หรือมากกว่า เพราะหากสิ่งไม่ถูกต้องก็จะมีกฎหมาย และจรรยาบรรณวิชาชีพคุมอยู่
นายสมชาย หนองคำ ผู้แทนครูจากขอนแก่น เขต 5 ระบุว่า 85-90% หากินกับตรงนี้ เขตพื้นที่ฯที่ตนอยู่ก็มีปัญหาหนักมาก การโยกย้ายครูคิดกันกิโลเมตรละ 1,000 บาท หรือมากกว่านี้ ต้นตอมาจากผู้ใหญ่ มีการกินกัน ขู่กัน และหลายคนพอขึ้นไปแล้วก็ลืมเพื่อน
นายเสถียร ตรีศรี รองผู้อำนวยการ สพท.ชัยภูมิ เขต 2 กล่าวว่า การสรรหาผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการ สพท.ทำไมต้องสอบเผื่อไว้จำนวนมากๆ ที่ผ่านมามีสอบ 200 คน มีคนวิ่งแล้ว 150 คน แล้วเด็กจะมีคุณภาพได้อย่างไร
นายกฤษฎา จันทร์สว่าง รองผู้อำนวยการ สพท.กาฬสินธุ์ เขต 3 กล่าวว่า การได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ.เขตฯ เหมาะสมแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ที่ปลายเหตุ อีกทั้งหากผู้อำนวยการ สพท.เข้มแข็ง เป็นหลัก ไม่ขยิบตา ก็เชื่อว่าปัญหาจะน้อยลง อย่างไรก็ตาม เห็นควรมี กกต.อ.ก.ค.ศ.เขตฯ ช่วยกำกับดูแลไม่ให้เกิดการทุจริตในการเลือกตั้ง
นายสมาน ลุนสำโรง อ.ก.ค.ศ.เขตฯชัยภูมิ เขต 1 กล่าวว่า เมื่อเกิดปัญหาในการบริหารงานบุคคลก็มักโทษ อ.ก.ค.ศ.เขตฯ ทั้งที่บางคนมาขอร้อง อ.ก.ค.ศ.เขตฯให้ช่วย พร้อมเสนอเงิน 4 หมื่นบาท แต่เมื่อไม่ได้ก็เป็นข่าว
นอกจากนี้ มีผู้ระบุว่าการเลือกตั้งผู้แทน อ.ก.ค.ศ.เขตฯมีปัญหาจริง เพราะต้องลงทุนเยอะ บางคนต้องขอเงินเมีย พอได้เป็น อ.ก.ค.ศ.เขตฯแล้ว เมื่อเมียทวงเงิน ก็ต้องหามาคืน จึงน่าจะแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เงินไม่มา กาไม่เป็น...เปลี่ยนแปลงเถอะเพื่อนครูเรา..เอาความจริงมาช่วยเพื่อนครูเราเถอะ อย่าเรียกรับผลประโยชน์และอยู่ใต้อาณัติใครอื่นเลย..เปลี่ยนแปลงได้ในทางที่ดี มาเลือกคนดี มีความรู้ และ อุดมการณ์เพื่อความถูกต้องเป็นธรรมให้สังคมครูเราเถอะครับ....ได้เวลาเปลี่ยนๆๆๆๆๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้องการทุจริต อ.ก.ค.ศ.
จุรินทร์"ฟันอ.ก.ค.ศ.เขตการศึกษา 5 จว.อีสานพ้นตำแหน่ง15คน
แถมฟันวินัยร้ายแรง 10 คน ทำรหัสลับ-แก้ไขกระดาษคำตอบ-เรียกรับเงินผู้เข้าสอบ เผยระงับแต่งตั้งอีก 2 ผอ.ด้วย
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการ ก.ค.ศ.นัดพิเศษว่า คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญรับเรื่องร้องทุกข์ ได้เสนอผลพิจารณาเรื่องร้องเรียนและกรณีที่ดำเนินการไม่ถูกต้องของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ในช่วงเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา รวม 5 เขตพื้นที่การศึกษา พ้นจากตำแหน่งจำนวน 15 คน ในจำนวนนี้ให้สอบสวนวินัยร้ายแรง 10 คน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของอนุกรรมการผู้แทน ก.ค.ศ. อนุกรรมการผู้แทนคุรุสภา อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ.2552 ข้อที่ 16 (7) และข้อที่ 17 (7) เนื่องจากขาดการประชุมเกิน 3 ครั้งติดต่อกันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร, ไม่สามารถปฏิบัติงานในบทบาทหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา, บกพร่องต่อหน้าที่หรือประพฤติเสื่อมเสียหรือไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่
"1.อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 5 ให้พ้นจากตำแหน่ง 6 คน และสอบวินัย 5 คน กรณีทุจริตการสอบคัดเลือกบรรจุข้าราชการครูผู้ช่วย เมื่อปี 2548 โดยแก้ไขกระดาษคำตอบให้กับผู้เข้าสอบ
2.อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ให้พ้นจากตำแหน่ง 1 คน และสอบวินัยร้ายแรงกรณีเรียกรับเงินจากผู้ขอประเมินเลื่อนวิทยฐานะ
3.อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น เขต 2 ให้พ้นจากตำแหน่ง 2 คน และสอบวินัยร้ายแรง 1 คน กรณีทุจริตการสอบคัดเลือกพนักงานราชการ ลูกจ้างที่มีอายุงาน 3 ปีขึ้นไป โดยทำรหัสคำตอบในกระดาษคำตอบของผู้เข้าสอบ
4.อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษานครราชสีมา เขต 7 ให้พ้นจากตำแหน่ง 2 คน และสอบวินัยร้ายแรงกรณีการทุจริตสอบบรรจุข้าราชการครูผู้ช่วย โดยมีการแก้ไขกระดาษคำตอบ และ
5.อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 2 ให้พ้นจากตำแหน่ง 4 คน และสอบวินัยร้ายแรง 1 คน กรณีเรียกรับเงินจากบุคคลที่สอบขึ้นบัญชีรอบรรจุข้าราชการครูผู้ช่วยรายละ 1 แสนบาท" นายจุรินทร์กล่าว และว่า ทั้ง 15 คน ให้พ้นจากตำแหน่ง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ไม่ใช่การให้ออกจากราชการ ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนวินัยร้ายแรงจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดต่อไป
นายจุรินทร์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีกรณีเรื่องร้องเรียน ซึ่ง ก.ค.ศ.ได้มีมติยับยั้งการดำเนินงานของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาอีก 2 กรณี เนื่องจากเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจในการจัดการที่ไม่ชอบธรรม ไม่ถูกต้อง โดยได้ระงับการแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนชลบุรี สุขบท สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ชลบุรี เขต 1 และยับยั้งการแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านผือพิทยาสรรค์ สังกัด สพท.อุดรธานี เขต 4 ซึ่งทาง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญรับเรื่องร้องทุกข์ได้พิจารณาแล้วว่า เป็นการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผิดหลักเกณฑ์ของ ก.ค.ศ. และขณะนี้ทาง สพท.ทั้ง 2 เขตพื้นที่ฯได้แก้ไขให้ถูกต้องแล้ว