เมล็ดมะขาม'มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง
นำเข้าเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2555 โดย สมุนไพรไทย
อ่าน [58556]  

'เมล็ดมะขาม'มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง.....

 

'เมล็ดมะขาม'มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง

ผลวิจัยพบ 'เมล็ดมะขาม'มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์เนื้องอกมะเร็ง-เสริมประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันร่างกาย-ต้านทานความเป็นพืษต่อตับ เผยเริ่มขาดตลาด ส่งออกไปขายต่างประเทศ

 

                 6 ก.ย.55 งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชิตครั้งที่ 9 “การนวดไทย มรดกไทยสู่มรดกโลก” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-9 กันยายน 2555 มีการแถลงข่าว เรื่อง “รวมพลคนต้านมะเร็งจากสหวิชาชีพ” โดยรศ.ดร.พร้อมจิต ศรลัมภ์ อาจารย์ประจำสำนักงานข้อมูลสุมนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหดิล กล่าวว่า ในปี 2012 มีงานวิจัยของต่างประเทศเกี่ยวกับเมล็ดมะขามจำนวนมาก โดยมีนักวิจัยเผยแพร่ผลงานการวิจัย พบว่า ในเนื้อเมล็ดมะขามมีไขมันและโพลีแซคคาไลด์ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวไม่ก่อให้เกิดโรคเบาหวานเหมือนน้ำตาลโมเลกุลคู่อย่างกลูโคสและละลายได้ดีดีในน้ำ

              รศ.ดร.พร้อมจิต กล่าวต่อว่า งานวิจัยพบด้วยว่าโพลีแซคคาไลด์จากเมล็ดมะขาม มีฤทธิ์เสริมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งหมายความว่าหากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่องหรือน้อยกว่าปกติ โพลีแซคคาไลด์จากเมล็ดมะขามจะกระตุ้นให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถกำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่ผ่านเข้าในร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อไวรัส ที่สำคัญ พบว่าสามารถยับยั้งการเกิดเซลล์เนื้องอกมะเร็งได้

             นอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์รักษาภาวะเบาหวานของหนูทดลองโดยมีกลไกซับซ้อนหลายวิธี เช่น ทำให้เกิดการสร้างเบต้าเซลล์ที่ผลิตอินซูลิน เพิ่มประสิทธิภาพในการนำส่งกลูโคสผ่านระหว่างเยื้อผนังเซลล์ตับและเม็ดเลือดเพื่อสร้างไกลโคเจนในตับ รวมทั้ง ดูดกลับกลูโคสที่ไตและนำส่งกลุโคสไปยังกล้ามเนื้อในร่างกาย กล้ามเนื้อหัวใจและเนื้อเยื่อไขมัน เป็นต้น ส่วนเปลือกเมล็ดมะขามที่มีสีน้ำตาล มีส่วนประกอบเป็นแทนนินที่ไม่ละลายในน้ำชนิดเดียวกับเมล็ดองุ่นถึง 35% จึงมีการนำมาพัฒนาต่อทำเป็นตัวพายาเข้าสู่เป้าหมายที่ต้องการในร่างกาย

           รศ.ดร.พร้อมจิต กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านั้นมีงานวิจัยในต่างประเทศเมื่อปี 2007 พบว่า สารสกัดเมล็ดมะขามที่ไม่คั่ว สามารถต้านทานความเป็นพิษต่อตับ กระตุ้นการสร้างเซลล์ตับขึ้นทดแทนส่วนท่าเสียไป และมีฤทธิ์ปกป้องไตของหนูทดลองจากสารเคมีที่ก่อมะเร็งต่อไตด้วย โดยทำการทดลองในหนูทดลองด้วยการให้พาราเซตามอลซึ่งเป็นพิษต่อตับขนาด 1 กรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวหนูทดลอง ติดต่อกัน 7 วัน เพื่อทำลายเซลล์ตับหนู หลังจากนั้นวันที่ 3 เริ่มป้อนสารสกัดน้ำของเนื้อในเมล็ดมะขามขนาด 700 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวหนูเป็นเวลา 9 วัน แล้วตรวจหาค่าเอนไซม์ที่ส่อถึงการอักเสบและการทำลายเซลล์ตับ วัดน้ำหนักตับที่เหลือและตัดชิ้นเนื้อตับไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์

             “มีการทดลองเรื่องความเป็นพิษของเมล็ดมะขามต่อร่างกายเช่นเดียวกัน ทั้งพิษแบบเฉียบพลันและพิษระยะยาว 3-4 เดือน พบว่าไม่ปรากฎความเป็นพิษในร่างกายแต่อย่างใด ดังนั้น สามารถกินเมล็ดมะขามเป็นเหมือนอาหารอย่างหนึ่งได้ แต่ไม่ใช่ว่าทานแต่เมล็ดมะขามเพื่อป้องกันมะเร็งอย่างเดียว โดยไม่ทานอาหารอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการนำเมล็ดมะขามมาผลิตเป็นสินค้าจำหน่ายหลายรูปแบบ เช่น กาแฟเมล็ดมะขาม หรือชา และเท่าที่ทราบขณะนี้เมล็ดมะขามเริ่มขาดตลาด มีการส่งออกไปขายต่างประเทศ”รศ.ดร.พร้อมจิตกล่าว

 

 
กำลังแสดงหน้าที่ 1 จากทั้งหมด 0 หน้า [หน้าถัดไปคือหน้าที่ 2] 1
 

 
เงื่อนไขแสดงความคิดเห็น
1. ทุกท่านมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่กล่าวพาดพิง และไม่สร้างความแตกแยก
2. ผู้ดูแลระบบขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับคณะผู้จัดทำเว็บไซต์

ชื่อ :

อีเมล์ :

ความคิดเห็นของคุณ :
                                  

              * ใส่รหัสจากภาพที่เห็นลงในช่องด้านล่าง และใส่คำตอบจากคำถาม เพื่อยืนยันการส่งความเห็น
  และสำลีสีอะไร
    

          ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยสาธารณชน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อผู้เขียนที่้เห็นคือชื่อจริง และข้อความที่เห็นเป็นความจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ boyoty999@google.com  เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้