หั่นหัวเกรียน 150 โจ๋อาชีวะ ยัดติวเข้มค่ายรบพิเศษ
นำเข้าเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2555 โดย เอาให้อยู่..เป็นคนดีที่สังคมต้องการ
อ่าน [58526]  

หั่นหัวเกรียน 150 โจ๋อาชีวะ ยัดติวเข้มค่ายรบพิเศษ .....

หั่นหัวเกรียน 150 โจ๋อาชีวะ ยัดติวเข้มค่ายรบพิเศษ

วันนี้ ( 3 ก.ค.)  ที่กองบัญชาการกองทัพบก  (บก.ทบ.)  พ.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพบก แถลงถึงความคืบหน้าการดำเนินการโครงการ “สุภาพบุรุษอาชีวะ” ว่า ทางกองทัพบกจะใช้หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี  เป็นสถานที่ในการฝึก มีจำนวนนักเรียนอาชีวะที่เข้ารับการฝึกจำนวน100 คนจากโรงเรียนอาชีวะภาคเอกชน 17 สถาบัน และอีก 50คนจากโรงเรียนอาชีวะภาครัฐบาล 16 สถาบัน รวม150  คน โดยคัดเลือกจากนักเรียนอาชีวะที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 2 เป็นหลัก ใช้อัตราส่วนของครูที่ดูแลนักเรียน 1 ต่อ 5 คน และจะประเมินการทำงานทุกวัน ทั้งนี้จะใช้ระยะเวลาในการฝึกรวมทั้งสิ้น 10 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่ 17 ก.ค.นี้จนถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ย.   ทั้งนี้ได้แบ่งเป็นช่วง 4 สัปดาห์แรกเป็นช่วงของการละลายพฤติกรรม ส่วน6 สัปดาห์ที่เหลือจะเป็นการฝึกทางวิชาการ รวมทั้งมีการไปศึกษาดูงานโรงงานอุตสาหกรรมและทัศนศึกษาในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์รวมถึงโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
 

พ.ท.วันชนะ กล่าวต่อว่า ทางกองทัพบกได้กำหนดให้วันที่ 17 ก.ค.เป็นวันปฐมนิเทศ โดยจะให้มีผู้ปกครองเข้าร่วมด้วย เพื่อให้ทราบถึงขั้นตอน และวิธีการฝึกอย่างละเอียด โดยตลอด 10 สัปดาห์ทางกองทัพบกจะไม่อนุญาตให้นักเรียนกลับบ้านได้ แต่อนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าเยี่ยมได้หลังการฝึกผ่านไปแล้ว 4 สัปดาห์  โดยในวันแรกจะมีการตัดผมทรงทหาร    แต่ทั้งนี้ก็ยอมรับว่าในวันจริงอาจจะมีนักเรียนที่คัดเลือกไว้ มารายงานตัวไม่ครบ  เพราะส่วนใหญ่ถูกบังคับมา ทำให้มีโอกาสที่คิดหนี  แต่กองทัพบกจะดูแลอย่างดี โดยจัดทหารเฝ้าเวรยาม แต่ถ้ามีนักเรียนหนีทางสถาบันต้องติดตามตัวกลับมา 
               

“ที่มีความกังวลว่าทางกองทัพบกจะนำเด็กเหล่านี้ไปฝึกหนักเหมือนกับทหารนั้น ผมขออธิบายว่าการฝึกทหารใหม่เพื่อต้องการให้เขามีความรู้ความสามารถ มีกำลังกาย กำลังใจ ใช้การปฏิบัติภารกิจทางทหาร แต่เด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กที่กำลังศึกษาเทียบเท่ามัธยมปลายอายุระหว่าง  15-17 ปี วัตถุประสงค์ในการฝึกคือเราต้องการให้เขาคุณค่าในตัวเอง นำความรู้ความสามารถไปใช้ประโยชน์ในวิชาชีพของเขา  เพราะฉะนั้นการฝึกจึงไม่เหมือนกัน และบางคนที่คนมองว่าจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าเด็กเหล่านั้นอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงทั้งหมด ซึ่งกองทัพบกไม่สนใจว่าเขาจะอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงหรือต้องเป็นผ้าขาว แต่เราสนใจว่าจะให้ศักยภาพ แนวทางการดำรงชีวิต และ ทัศนคติที่ดีกับเขา สิ่งที่จะได้คือภูมิคุ้มกันในการดำรงชีวิตในอนาคต แต่เราไม่อยากให้สังคมคาดหวังว่าผู้ที่อบรมแล้วจะดีหมด เพราะเป็นไปไม่ได้ ” พ.ท.วันชนะ กล่าวและว่าอย่างไรก็ตามทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้กำชับเรื่องความปลอดภัยว่าต้องมีการตรวจร่างกายก่อนเข้ารับการฝึก  เพราะแต่ละคนอาจมีโรคประจำตัว  จึงเป็นห่วงว่าอาจจะอันตรายได้  อีกทั้งการฝึกครั้งนี้ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ เนื่องจากไม่เหมือนการฝึกทหารเกณฑ์  ดังนั้นขอให้ผู้ปกครองคิดว่า เหมือนกับให้ลูกของท่านมาเข้าค่ายลูกเสือ เพื่อฝึกกิจกรรมร่วมกัน.
 

 

 
กำลังแสดงหน้าที่ 1 จากทั้งหมด 0 หน้า [หน้าถัดไปคือหน้าที่ 2] 1
 

 
เงื่อนไขแสดงความคิดเห็น
1. ทุกท่านมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่กล่าวพาดพิง และไม่สร้างความแตกแยก
2. ผู้ดูแลระบบขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับคณะผู้จัดทำเว็บไซต์

ชื่อ :

อีเมล์ :

ความคิดเห็นของคุณ :
                                  

              * ใส่รหัสจากภาพที่เห็นลงในช่องด้านล่าง และใส่คำตอบจากคำถาม เพื่อยืนยันการส่งความเห็น
  และสำลีสีอะไร
    

          ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยสาธารณชน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อผู้เขียนที่้เห็นคือชื่อจริง และข้อความที่เห็นเป็นความจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ boyoty999@google.com  เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้