ปรับพื้นที่นา นำตาข่ายเขียวมาขึงเป็นคอกเลี้ยงกบ ขายลูกอ๊อด นำเข้าเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2555 โดย แก้จนได้นะ อ่าน [58506]
ปรับพื้นที่นา นำตาข่ายเขียวมาขึงเป็นคอกเลี้ยงกบ ขายลูกอ๊อด.....ที่จังหวัดนครพนม ในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เดือนพฤษภาคมของทุกปี หลายพื้นที่จะประสบปัญหาจากภาวะภัยแล้ง ขาดน้ำในการทำการเกษตร จนเกษตรกรบางรายต้องเดินทางไปขายแรงงานต่างถิ่น เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว รอจนกว่าจะถึงหน้าฝน และฤดูกาลทำนาปีมาถึง จึงจะกลับบ้านเพื่อทำนาตามปกติ
เช่นเดียวกับชาวบ้านในพื้นที่ บ.ดอนแดง ต.ธาตุพนมเหนือ อ.ธาตุพนม และ บ้านยอดโพธิ์ ต.นาขาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม ส่วนใหญ่จะมีอาชีพหลักคือการทำนาปี พอถึงหน้าแล้งจะประสบปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำในการทำการเกษตรหน้าแล้ง ไม่สามารถทำการเกษตรปลูกพืชผักได้ โดยเฉพาะปีนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อปัญหาภัยแล้งหนักกว่าทุกปี
วันนี้ ชาวบ้านเหล่านี้กับพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยการปรับพื้นที่นา นำตาข่ายเขียวมาขึงเป็นคอกเลี้ยงกบ ขายลูกอ๊อด เนื่องจากมองว่า ลูกอ๊อด เป็นที่ต้องการของตลาดสูง และหายาก โดยได้เริ่มจากการเลี้ยงตามภูมิปัญญาชาวบ้านลองผิดลองถูกมานานหลายปี จนกระทั่งเกิดความชำนาญ กลายเป็นอาชีพสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี มีเงินหมุนเวียนสะพัดปีละกว่า 10 ล้านบาท ทีเดียว
อาชีพเลี้ยงกบจะเริ่มขึ้นในช่วงหน้าแล้งหลังเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ ชาวนาจะนำตาข่ายเขียวมาขึงเป็นบ่อเลี้ยงกบ จากนั้นจะนำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบที่เลี้ยงไว้ ไปปล่อยให้กบออกไข่ เพาะพันธุ์เป็นลูกอ๊อด แล้วใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 20 วัน เพื่อขายลูกอ็อด ในราคากิโลกรัมละ 150-200 บาท โดยจะมีพ่อค้า แม่ค้า ทั่วภาคอีสาน มารับซื้อไปขาย ให้ประชาชนที่นิยมรับประทานซื้อไปประกอบอาหาร แกง หมก อ่อม ตามความชอบ
การเลี้ยงกบ ขายลูกอ๊อด เป็นอาชีพที่ใช้ต้นทุนต่ำ และดูแลง่าย ใช้น้ำน้อยในการเลี้ยง รวมถึงไม่มีคู่แข่งทางการตลาด ทำให้สามารถส่งขายได้ไม่อั้น มีตลาดรองรับตลอด สร้างรายได้ช่วงหน้าแล้ง ทำให้เกษตรกรในหมู่บ้านไม่ต้องอพยพไปทำงานต่างถิ่น พอเข้าหน้าฝนเดือนมิถุนายน ชาวบ้านจะใช้พื้นที่ทำนาปี ตามปกติต่อไป
|