ทีนี้มาว่ากันเรื่องของลูกน้องหรืดผู้ตามกันดีกว่า .....ทีนี้มาว่ากันเรื่องของลูกน้องหรืดผู้ตามกันดีกว่า ในพุทธศาสนากล่าวกันว่าคนที่จะเป็นลูกน้องหรือผู้ตามที่ดีนั้น ควรมีหลักธรรมของ ผู้ว่าง่าย (หรือหลักธรรมของผู้มีจิตสำนึกเชิงบริการ – Service Mind) อย่างน้อย ๑๑ ประการ จึงจะสามารถ ครองใจนายได้อยู่หมัด
๑ ไม่กลบเกลื่อน เมื่อถูกนายแนะนำพร่ำสอน ตักเตือน ก็ไม่ปัดความรับผิดชอบ ยอมรับฟังคำแนะนำสอนด้วยความเคารพ
๒ ไม่นิ่งเฉย เมื่อมีผู้ตักเตือนให้ร็ว่าตนมีข้อบกพร่องอย่างไร ก็ไม่นิ่งเฉยทำเป็นเอาหูทวนลม หากแต่มีความกระตือรือร้นที่จะปรับปรุงตัวเองเสมอ
๓ ไม่มองหาช่องทางที่จะโต้ตอบกลับ เมื่อมีผู้ตัดเตือนแนะนำ ก็ฟ้งด้วยใจเคารพ ไม่ใช่เกิดอหังการคอยหาแต่ช่องจะโต้แย้งตีรวน
๔ ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อมีคนคอยตักเตือนชี้ข้อบกพร่อง ก็มีความดีใจดังหนึ่งมีคนยื่นแก้ววิเศษให้ (มองโลกในแง่ดี มองผู้ตักเตือนเหมือนผู้ชี้ขุมทรัพย์)
๕ เคารพต่อผู้แนะนำพร่ำสอนผู้คอยตักเตือนชี้แนะอย่างยิ่ง
๖ มีความออ่นน้อมถ่อมตนอย่างยิ่ง หรือมีสัมมาคารวะ รู้จักกาลควรไม่ควร
๗ เมื่อมีผู้ให้คำแนะนำ พร้อมเสมอที่จะขอบคุณอย่างจริงใจ
๘ ไม่เป็นคนว่างายในทางที่ผิด หรือไม่เลี่ยงบาลี เพื่อเข้าข้างต้นเอง เช่นเมื่อนายบอกให้เป็นคนว่างายก็เป็นคนว่าง่ายในทางที่ถูก ไม่ว่างายในทางที่ผิด
๙ ไม่ยินดีในการขัดคอ หรือทะลุกลางปล้อง เมื่อมีผู้ตักเตือนชี้ข้อผิดพลาด ก็ควรฟังให้จนจบ ไม่ใช้รีบขัดคอ หรือแก้ตัวทันทีโยไม่ยอมฟังให้จบเสียก่อน
๑๐ ยอมรับฟังโอวาทด้วยความเคารพ เมื่อมีผู้ชี้โทษ ก็ยีนดีปวารณาตัวให้เขาว่ากล่าวชี้แนะได้เต็มที่ ไม่กลัวแต่ยอมรับฟังอย่างผู้ใฝ่พัฒนาตนให้ดีขึ้นอยู่เสมอ
๑๑ อดทน แม้จะถูกตำหนิอย่างแรงก็ยอมได้ ไม่ลุแก่โทษจนเสียคน เสียงาน
เป็นนายอย่างไรให้ชนะใจลูกน้อง เป็นลูกน้องอยางไรให้สามารถครองใจนาย เคล็ดลับอยู่ข้างบนนี้แล้วสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือ เมื่ออ่านแล้วใครจะสามารถแปรทฤษฎีสู่การปฎิบัติได้มากกว่ากันเท่านั้นเอง