กลิ่นปาก" ที่สะอาดสดชื่น เป็นเสน่ห์ในการพูดคุย นำเข้าเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2555 โดย pop อ่าน [58502]
กลิ่นปาก" ที่สะอาดสดชื่น เป็นเสน่ห์ในการพูดคุย..... กล่าวได้ว่า "กลิ่นปาก" ที่สะอาดสดชื่น เป็นเสน่ห์ในการพูดคุย และช่วยสร้างความมั่นใจเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับคนสนิทหรือคนรัก แต่ถ้ามีกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์แล้วล่ะก็ อาจทำให้ความรัก และความใกล้ชิดระหว่างคุณกับคนรักค่อย ๆ ถอยห่างออกไปได้ ในโอกาสพิเศษนี้ หากไม่อยากให้โลกสีชมพูต้องสลาย เรามีคำแนะนำดี ๆ ในการพิชิตกลิ่นปากจาก ทพ.อัครพล เล้าสุทธิพงศ์ แผนกประกันสังคม รพ.กล้วยน้ำไท 1 มาฝากกัน
"กลิ่นปาก" เป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ถ้าเรารู้ว่าสาเหตุของกลิ่นปากนั้นเกิดจากอะไร โดยสาเหตุของกลิ่นปากนั้น ทพ.อัครพล เผยให้ฟังว่า เกิดจาก 2 สาเหตุหลัก คือสาเหตุจากภายในช่องปาก และสาเหตุจากส่วนที่ไม่ใช่จากช่องปาก เช่น หลอดอาหาร โพรงอากาศ (Sinus) โดย 80 - 90 เปอร์เซ็นของผู้ที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นปากเกิดจากสาเหตุภายในช่องปาก
"ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในช่องปากเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในปากบริเวณเหงือกระหว่างฟัน และด้านหลังของโคนลิ้น ซึ่งแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีขึ้นโดยการอาศัยอาหารที่ตกค้างอยู่ตามร่องเหงือก ลิ้น ทำให้เหงือกมีการอักเสบ นาน ๆ เข้าจะมีกลิ่นเกิดขึ้น ทั้งจากเหงือกที่อักเสบลุกลาม และแบคทีเรียบางชนิด ที่สร้างก๊าซที่ทำให้เกิดกลิ่นได้ด้วย" ทพ. อัครพลขยายความ
ส่วนบริเวณที่มักเกิดการสะสมของแบคทีเรียจนเกิดกลิ่นปาก มีอยู่ด้วยกัน 6 ตำแหน่งหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
1. บริเวณเหงือกที่อักเสบ เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดของการเกิดกลิ่นปาก เริ่มจากการมีคราบจุลินทรีย์ ( plaque ) สะสมบริเวณผิวฟันร่วมกับการตกตะกอนของน้ำลายจนเกิดเป็นหินปูนขึ้น ซึ่งทำให้เหงือกถูกทำลาย มีการอักเสบและมีกลิ่นเกิดขึ้น เมื่อเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการทำลายกระดูกใต้เหงือก ทำให้ฟันโยกได้ เหงือกอักเสบมักเริ่มจากบริเวณซอกฟันก่อนบริเวณอื่น แม้จะมีหินปูนในระดับที่ยังไม่ทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบก็เป็นสาเหตุของกลิ่นปากได้เช่นเดียวกัน
2. ฟันผุ รูที่เกิดจากฟันผุเป็นแหล่งสะสมเศษอาหาร ซึ่งกลิ่นเกิดจากอาหารที่บูดเน่า และก๊าซจากแบคทีเรีย ยิ่งฟันผุจนทะลุถึงโพรงประสาทฟัน มีหนองปลายรากฟัน หนองพวกนี้มีกลิ่นมาก ทำให้เกิดกลิ่นปาก
3. อาหาร อาหารกลิ่นแรง เช่น กระเทียม หอมใหญ่ พริกไทย และการดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก การสูบบุหรี่ เป็นต้น
4. แผลในช่องปาก เช่น แผลร้อนใน แผลหลังถอนฟัน เป็นต้น เพราะทำให้เคี้ยวไม่ถนัด ทำให้มีเศษอาหารติดฟันได้ง่ายและมากกว่า แผลที่มีเลือดไหลซึมก็เป็นอาหารที่ดีของเชื้อโรค ทำให้มีเชื้อโรคในช่องปากมากขึ้น มีการบูดเน่าของอาหาร และเลือด นอกจากนี้แผลที่เกิดขึ้นทำให้แปรงฟันได้ไม่ถนัด ส่งผลให้มีกลิ่นปากมากขึ้นได้
6. ลิ้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของกลิ่นปาก เพราะมีการสะสมของเศษอาหาร และแบคทีเรีย ช่วงเวลาที่เกิดกลิ่นปากได้ง่ายคือช่วงหลังตื่นนอนตอนเช้า เพราะน้ำลายไหลเวียนในปากน้อย ยิ่งแปรงฟันไม่สะอาดก็จะมีการสะสมของแบคทีเรียมากขึ้น
สำหรับวิธีกำจัดกลิ่นปากอย่างได้ผลนั้น นอกเหนือจากการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และใช้ไหมขัดฟันแล้ว คุณหมอให้คำแนะนำเป็นแนวทางปฏิบัติง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
1. การทำความสะอาดโคนลิ้นด้วยแปรงทำความสะอาดลิ้น แปรงให้ลึกถึงโคนลิ้น นอกจากนี้ควรบ้วนปากให้ทั่วเพื่อลดเชื้อแบคทีเรียและกลิ่นปาก การใช้น้ำยาบ้วนนปากควรเลือกที่ไม่มีแอลกอฮอล์
2. เคี้ยวอาหารให้ได้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เพื่อลดการสะสมของคราบแบคทีเรีย
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอไม่ปล่อยให้ปากแห้ง เพราะการดื่มช่วยเพิ่มให้น้ำลายไหลเวียนในช่องปากได้ดี และลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปากได้เพราะถ้าในช่องปากอุ่น และแห้งแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้ดี
4. หากพบหินปูนมาก โรคเหงือก หรือฟันผุ ควรรีบไปพบทันตแพทย์ทันที
5. พบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูน และตรวจสุขภาพในช่องปาก ทุก 6 เดือน
ท่านใดที่ไม่แน่ใจตัวเองว่าเป็นคนมีกลิ่นปากหรือไม่ วิธีทดสอบกลิ่นปากด้วยตัวเองง่าย ๆ ให้เอามือป้องปากแล้วลองสังเกตกลิ่นเวลามีลมออกจากช่องปาก หรือถามคนใกล้ชิดที่กล้าพูดตรงไปตรงมากับคุณให้ช่วยบอก หากรู้สึกตัวว่ามีกลิ่นปาก ไม่ควรนั่งนิ่ง ๆ ไม่พูดคุยกับใครทั้งวัน เพราะจะทำให้มีกลิ่นปากมากกว่าเดิม ทางที่ดี ควรหาหมากฝรั่งมาเคี้ยวเล่น เพราะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เร็วและง่ายที่สุด ทั้งยังช่วยเพิ่มการผลิตน้ำลายที่จะมาชะล้างคราบแบคทีเรีย แต่ควรเลือกชนิดที่ไม่มีน้ำตาลเพื่อป้องกันฟันผุ หรือชนิดที่ใช้สารไซลีทอลให้ความหวานแทน
วันนี้คุณมี "กลิ่นปาก" ที่หอมสดชื่นเพื่อคนที่คุณรักกันแล้วหรือยังครับ
|